งานที่ประทับใจที่สุดของผมมีอยู่งานหนึ่งเป็นการวิเคราะห์การตลาดของค่ายเพลงชื่อดังย่านลาดพร้าวหันมาทำเครื่องสำอาง เมื่อผมได้งานนี้ก็ศึกษาหาข้อมูลและวิเคราะห์การตลาดของบริษัทนี้จนส่งงานเรียบร้อย ไม่นาน CEO ของค่ายเพลงนั้นก็ได้อ่านและก็แชร์บทความที่ผมเขียน

ชีวิตในวัยเด็กของผมเป็นคนชอบอ่านการ์ตูน อ่านนิยาย ตั้งแต่เด็กๆ และเคยฝันว่าสักวันจะได้เขียนการ์ตูน เขียนนิยาย เขียนบทละคร  ให้คนได้อ่าน แต่ความฝันมันสำหรับเด็กน้อยคนหนึ่งมันแทบจะเป็นไปไม่ได้ ด้วยความสามารถทางการเรียนที่อยู่ในระดับกลางของห้อง คนรอบข้างได้บอกว่าเรียนไม่เก่งควรไปเรียนสายอาชีพ นั้นคือจุดสุดท้ายที่ผมได้ว่างความฝันของตัวเอง ย้ายไปเรียนสายช่างโดยเปลี่ยนความฝันใหม่เข้าสู่โลกของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์จนเรียนจบระดับปริญญาโท และมาทำงานด้านไอทีเรื่อยมา จนอายุ40ปี ผมเริ่มรู้สึกว่างานปัจจุบันมันคืองานที่ใช่จริงหรือ? งานในฝันคืออะไร? คำถามมันเริ่มผุดขึ้นมาในหัว คำถามที่หายไปเกือบ 30 ปี ก็โพล่ขึ้นมาถามว่า “เราชอบงานเขียน” จนเกิดภาวะสับสนทางความคิด จนทำให้นอนหลับไม่สนิทหลายคืน

มีอยู่วันหนึ่งผมได้เข้าไปเจอ Facebook ของ อาจารย์เกียรติรัตน์ จินดามณี เจ้าของ Facebook Taokaemai อาจารย์เกียรติรัตน์ คนหนุ่มผู้มีความสามารถทางด้านการเขียนคอนเทนท์ธุรกิจและเป็นกูรูทางด้านธุรกิจรอบด้าน และเมื่อติดตามได้ไม่นานนัก อาจารย์เกียรติรัตน์ ได้เปิดรับสมัครนักเรียนคอร์สการเขียนบทความให้กับผู้ที่สนใจ ตอนแรกผมก็เลือนผ่านแต่เหมือนมีอะไรบางอย่างบอกว่า “โอกาสมาถึงแล้ว” เมือใจสั่งไปตามล่าหาความฝันวัยเด็ก ผมจึงเลือกโอกาสนี้โดยไม่ลังเล หลังจากที่ได้อบรมคอร์สนี้ต้องขอบคุณ อาจารย์เกียรติรัตน์ จินดามณี ที่ให้ผมมีความรู้ เทคนิคดีๆในการเขียนบทความที่ดีและมีคุณภาพ นั้นคือก้าวแรกของบนถนนนักเขียนบทความของชายวัย 41 ปีได้เริ่มต้นขึ้นตอนนั้นเอง

ประสบการณ์ของงานเขียน

งานแรกถือว่าเป็นสิ่งที่ยากที่สุด งานแรกที่ได้คืองานเขียนเกี่ยวกับเจ้าของธุรกิจยักษ์ใหญ่เข้าซื้อหุ้นบันเทิง นั้นเป็นงานแรกที่สร้างความเครียด  ความกลัว แต่อีกใจหนึ่งก็ตื่นเต้นกับงานแรกว่ามัน ท้าทายตัวเอง ไม่ว่างานจะยากแค่ไหนเราต้องทำให้ได้ และสิ่งสำคัญของงานเขียนหรือกับทุกงานคือ ความรับผิดชอบ และตรงต่อเวลา ถ้าเรารับงานเขียนมาแล้วต้องทำให้ดีที่สุด  งานนี้เป็นก้าวแรกในถนนสายนักเขียนบทความ แต่มันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะการเขียนงานครั้งแรกเป็นธรรมดาที่มันต้องมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ต้องแก้งานหลายครั้งกว่าจะได้รับกว่าจะจบงานได้

หลังจากนั้นก็มีงานเข้ามาเรื่อยๆทุกงานได้สั่งสมประสบการณ์ให้ผมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานเขียนบทความโฆษณาสินค้า งานเขียนบทความธุรกิจ งานเขียนด้านความธุรกิจสุขภาพ สินค้าสุขภาพ บทความด้านการเงิน การธนาคาร งานบทความเกี่ยวกับSMEs บทความอาหารเสริม และที่เป็นไฮไลท์ที่ยังคงจำได้ไม่ลืมเลยคือ บทความพระเครื่อง ถือเป็นบทความที่แหวกแนวที่สุดที่ผมได้เขียน แต่ถือเป็นงานที่ท้าทายทำให้ต้องหาความรู้เพิ่มเติมอย่างที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน

งานที่ประทับใจที่สุดของผมมีอยู่งานหนึ่งเป็นการวิเคราะห์การตลาดของค่ายเพลงชื่อดังย่านลาดพร้าวหันมาทำเครื่องสำอาง เมื่อผมได้งานนี้ก็ศึกษาหาข้อมูลและวิเคราะห์การตลาดของบริษัทนี้จนส่งงานเรียบร้อย ไม่นาน CEO ของค่ายเพลงนั้นก็ได้อ่านและก็แชร์บทความที่ผมเขียนให้กับคนในบริษัทนั้นถือเป็นกำลังใจทำให้ผมมีพลังในการเขียนบทความต่อมาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน

สิ่งที่ได้มากกว่าการเขียน

การพัฒนาความคิด งานเขียนเป็นการพัฒนาสมองให้ทำงานอย่างเต็มที่ เพราะงานเขียนเป็นการนำความรู้และประสบการณ์ที่มีมาประมวลผลเข้าด้วยกัน แล้วกลั่นกรองเนื้อหาสาระสำคัญให้ตกผลึก และนำมาถ่ายทอดลองสู่งานเขียนเป็นการบริหารความคิดให้ทำงานตลอดเวลา

  -สร้างประสบการณ์ใหม่ ในการเขียนงานบ้างเรื่องเราต้องค้นคว้าหาข้อมูลของการเขียนบทความจากหลายแหล่งเช่น ข้อมูลจากคน ข้อมูลจากการสังเกต ข้อมูลในหนังสือ ข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต ข้อมูลสถานที่จริง จนรวมไปถึงการได้ทดลองกับของจริง นั้นทำให้เกิดพบประสบการณ์แปลกใหม่ที่ไม่เคยเจอมาก่อน

-สร้างโอกาส เมื่อเราเขียนบทความจนมีความชำนาญมากขึ้น เริ่มมีชื่อเสียงทำให้มีงานเพิ่มเข้ามามากขึ้น อาจจะมีงานขนาดเล็กไปจนถึงงานระดับใหญ่ๆ ขึ้นอยู่กับฝีมือและความรับผิดชอบของผู้เขียนมีมากมายน้อยแค่ไหน

-สร้างความรับผิดชอบ ส่งวันไหนก็ต้องส่งก่อนวันนั้น เส้นตายถือว่าสำคัญเพราะงานเขียนบทความนั้นจะต้องลงตามเวลาของเจ้าของบทความ เช่นรับงานเขียนบทความต้องส่งภายใน 3วัน ก็ต้องส่งก่อนหรือไม่เกิน 3 วัน เพราะลูกค้าหรือผู้จ้างอาจจำเป็นต้องลงคอลัมน์ในตรงเวลา ถ้าเราสายก็ทำให้ผู้ว่าจ้างเสียหายได้

  -ส่งต่อความคิดสู่ผู้อื่น ในการเขียนนั้นถือว่าเป็นการถ่ายทอดความคิดของผู้เขียนส่งต่อไปยังผู้อ่าน เมื่อผู้อ่านได้ซึมซับเอาความคิดของผู้เขียน นำไปคิดต่อ ไปปฏิบัติ หรือให้อะไรแก่ผู้อ่านถือว่าความคิดของผู้เขียนได้ส่งต่อไปยังผู้อ่าน

  -ปรับเปลี่ยนทัศนคติตัวเองและผู้อ่าน เมื่อเราเขียนงานมากขึ้น ค้นคว้าหาข้อมูลมากเข้าความคิดเราเปลี่ยนไป จะมีความคิดละเอียดมากขึ้น มีมุมมองชีวิตใหม่ มีความคิดที่เปิดกว้างขึ้น

-สร้างรายได้ งานเขียนไม่ใช่เพียงแต่เขียนเพื่อความพอใจของตัวผู้เขียนเท่านั้นแต่มันสามารถสร้างรายให้กับผู้เขียนได้ ยิ่งงานเขียนที่มีคุณภาพ อ่านง่าย และเข้าถึงผู้อ่าน มูลค่าของงานเขียนก็จะมีราคาเพิ่มขึ้น ผู้เขียนที่มีชื่อเสียงงานเขียนก็จะมีราคาสูงขึ้นตาม

งานเขียนเป็นความฝันของเด็กน้อยคนหนึ่งเมื่อ 30ปีก่อนได้กลับมาเป็นจริงนั้นไม่ใช่เพราะโชคชะตากำหนดให้เกิด แต่มันเกิดจากผมพยายามสร้างฝันให้เป็นจริง ผมอาจจะเริ่มความฝันวัยเด็กด้วยวัยกลางคนมันอาจจะยากกว่าคนอื่นๆ แต่ไม่ยากเกินความพยายาม และนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสิ่งที่ผมพยายามได้เห็นผลแล้ว มันอาจจะไม่สวยเท่ากับคนอื่นแต่มันสวยสำหรับผมเสมอ

“อย่าละทิ้งความฝันถ้าเรายังไม่เคยได้ทำ”

ทศม วงศ์ช่วย
ปริญญาตรี วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร
ปริญญาโท สาขาการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์


หลักสูตร สำหรับท่านที่ต้องการพัฒนาทักษะทางด้านงานเขียน