Live ขายของสร้างยอดขายถล่มทลายในจีน กำลังทำให้ Amazon, TikTok และ YouTube ต้องปรับมาใช้กลยุทธ์นี้ในสหรัฐอเมริกา

Live ขายของสร้างยอดขายถล่มทลายในจีน กำลังทำให้ Amazon, TikTok และ YouTube ต้องปรับมาใช้กลยุทธ์นี้ในสหรัฐอเมริกา

สำนักข่าว CNBC ได้รายงานข่าวเรื่อง กลยุทธ์การช็อปปิ้งผ่าน live stream ที่สร้างอิมแพคในจีน กำลังทำให้ Amazon, TikTok และ YouTube ต้องปรับมาใช้กลยุทธ์นี้ในสหรัฐอเมริกา โดยมีรายละเอียดดังนี้

การซื้อสินค้าผ่านช่องทาง Live stream สร้างอิมแพคอย่างมหาศาลในประเทศจีนตลอดช่วงเวลา 3 ปีภายใต้สถานการณ์โควิดที่ผ่านมา ซึ่งนำโดย alibaba บริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของจีนที่ทำการเปิดตัวแอปพลิเคชั่น live stream ที่ชื่อ Taobao Live โดยตัวอย่างของความสำเร็จในการขายสินค้าบนช่องทาง live stream เกิดขึ้นในช่วง 30 นาทีแรกของเทศกาลวันคนโสดประจำปีของจีนในปี 2020 ซึ่ง live stream ของ Taobao สร้างรายได้กว่า 7,500 ล้านเหรียญ ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 400% เมื่อเทียบจากปีก่อน  และในปี 2020 ที่ผ่านมามีข้อมูลว่ากลยุทธ์ live stream สร้างมูลค่ากว่า 171,000 ล้านดอลลาร์และคาดว่าจะเติบโตเป็น 423,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2022ที่ผ่านมา และจากความสำเร็จนี้เองที่ทำให้แพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ในสหรัฐอเมริกาไม่ว่าจะเป็น TikTok, Amazon, Walmart หรือแม้กระทั่ง Shopify และ YouTube ต่างก็พยายามเข้ามามีส่วนร่วมในเกมการแข่งขันนี้

จริง ๆ แล้วต้องบอกว่าสหรัฐอเมริกาหันมาให้ความสนใจการ live stream ช้ากว่าในประเทศจีนมากโดยจากผลสำรวจของ Coresight Research พบว่าชาวจีนกว่า 74% เคยผ่านการซื้อสินค้าบนช่องทาง live stream มาแล้วแต่ 78% ของชาวอเมริกันที่เข้าร่วมผลสำรวจกลับบอกว่าพวกเขาไม่เคยดู live stream ในปี 2022 ด้วยซ้ำ

Amazon Live ขายของ

แม้ว่า Taobao live ของ Alibaba จะยังครองสัดส่วนอันดับ 1 ที่ 35% แต่เราก็เริ่มเห็นบริษัทค้าปลีกต่าง ๆ ในสหรัฐเข้ามาลงทุนในธุรกิจนี่มากขึ้น นำโดย Amazon ซึ่งใน Amazon Live ตัวของ Influencer สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ผ่านการ live สดจากบ้านของพวกเขาเองและผู้ชม live สดก็สามารถมีส่วนร่วมโดยการส่งอิโมจิหรือดาวเพื่อโต้ตอบกับผู้ live ในขณะที่ chat box จะช่วยให้ลูกค้าถามคำถามที่อยากรู้ได้ รวมถึงมีลิงก์สำหรับสั่งซื้อสินค้าอย่างชัดเจนเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ซื้อ

นอกเหนือไปจากการขายผลิตภัณฑ์ของตนเอง ทาง Amazon  ยังมีช่องทางสร้างรายได้สำหรับผู้สร้าง live สดในรูปแบบของค่าคอมมิชชั่นสำหรับ Influencer ที่ทำการรีวิวแนะนำสินค้ารวมถึงการได้นับการสนับสนุนโดยตรงจากแบรนด์ต่าง ๆ ที่ Influencer มารีวิวสินค้าให้นั่นเอง

จากความสำเร็จนี้เองทำให้ Amazon ยังคงลงทุนในธุรกิจ Live stream ด้วยการเปิดตัว Amazon Live ในอินเดีย

TikTok, YouTube และ Meta Live ขายของ

ไม่ใช่แค่ Amazon เท่านั้นที่ตื่นตัวเพราะแม้กระทั่งแพลตฟอร์มโซเชียลเองก็กำลังให้ความสนใจเทรนด์นี้เช่นกัน โดย TikTok ได้ร่วมมือกับ Walmart ในการ live stream 1 ชั่วโมงเมื่อปี 2020 ซึ่งผู้ใช้ TikTok สามารถซื้อสินค้าแฟชั่นของ Walmart ที่ครีเอเตอร์นำเสนอได้  และเกิดความร่วมมือกันอีกครั้งในปี 2021 หลังจากการ live stream ครั้งแรกประสบความสำเร็จมหาศาลโดยมียอดวิวสูงกว่าที่คาดไว้ถึง 7 เท่า และเพิ่มจำนวนผู้ติดตาม TikTok ของ Walmart อีกถึง 25%

ก่อนหน้านี้ผู้ใช้งาน TikTok ต้องออกจากแอปเพื่อไปทำการซื้อสินค้าซึ่งเป็นช่องโหว่สำคัญที่ทำให้ TikTok สูญเสียรายได้ไปอย่างน่าเสียดาย ดังนั้น TikTok จึงเริ่มทดสอบฟังก์ชันใหม่ที่ชื่อว่า TikTok Shop ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อสินค้าโดยตรงในแอป

ในส่วนของทาง YouTube เองก็พัฒนาแพลตฟอร์มของตนเพื่อช่วยให้ผู้ซื้อสามารถซื้อสินค้าที่ต้องการได้โดยไม่ต้องออกจากแพลตฟอร์ม

นอกเหนือไปจากแพลตฟอร์มใหญ่ ๆ ในสหรัฐยังมีสตาร์ทอัพที่มุ่งพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ ๆ สำหรับการทำ live stream โดยเฉพาะเช่น Ntwrk ที่เน้นรองเท้าผ้าใบและของสะสม, Supergreat และ Trendio สำหรับผลิตภัณฑ์ความงาม  รวมถึงแพลตฟอร์มที่ใหญ่ที่สุดในหมู่สตาร์ทอัพก็คือ TalkShopLive ซึ่ง Walmart จัดกิจกรรมช้อปปิ้งสด 150 รายการในปี 2022 ที่ผ่านมาและคนดังอย่าง Dolly Parton, Oprah Winfrey และ Tim Tebow ก็ live stream ไปแล้ว

แต่ในทางกลับกัน Meta กลับหยุดให้บริการ facebook Live shopping ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2022 ที่ผ่านมา รวมถึงการนำแท็บร้านค้าออกจากแถบนำทางของ Instagram เมื่อต้นเดือนนี้

ในขณะที่ live stream กำลังพัฒนาในประเทศสหรัฐในทางกลับกันในประเทศจีนเองรัฐบาลหันมาเริ่มบังคับใช้การกำกับดูแลอุตสาหกรรมภาคเอกชนมากขึ้น ทำให้คนดังในวงการ live stream บางรายถูกปรับเงินเป็นจำยวนมากรวมถึงการถูกพักงานกะทันหันโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า

ที่มา: https://www.cnbc.com/2023/02/14/us-livestream-shopping-a-target-of-tiktok-amazon-live-and-youtube.html

วิเคราะห์จากข่าว ประเด็นสำคัญที่ธุรกิจควรให้ความสนใจ

จริง ๆ แล้วบ้านเรารู้จักคำว่า Live ขายของ กันมาพักใหญ่ ๆ แล้ว โดยช่องทางการไลฟ์สดมีทั้งบนแพลตฟอร์มโซเชี่ยลมีเดียรวมถึงการไลฟ์สดบนแอปพลิเคชั่นมาร์เก็ตเพลสต่าง ๆ แม้ว่าเราจะรับรู้ถึงประสิทธิภาพของการทำไลฟ์สดเพื่อขายสินค้าแต่กรพนั้นก็ใช่ว่าทุก ๆ การไลฟ์สดจะสร้างผลลัพธ์ที่คุณต้องการได้ตลอด โดยสิ่งที่จะตัดสินว่าการไลฟ์สดของคุณจะประสบความสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ติดตามหน้าร้านหรือแบรนด์ของคุณว่ามีมากน้อยเพียงใด หากคุณยังมีจำนวนผู้ติดตามไม่มากนักการไลฟ์สดก็ไม่ได้การันตีว่าคุณจะสร้างยอดขายได้อย่างที่ต้องการ ดังนั้นการสร้างตัวตนและสร้างฐานผู้ติดตามแบรนด์จึงเป็นสิ่งสำคัญเป็นอันดับแรก

หากแบรนด์ของคุณยังไม่สามารถสร้างฐานผู้ติดตามได้มากพอ การใช้ influencer ที่มีคาแรกเตอร์ที่ตรงกับแบรนด์สินค้ามาช่วยไลฟ์สดก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่คุณสามารถทำได้เช่นกัน การทำเช่นนี้นอกจากจะสร้างยอดขายเพิ่มคุณยังมีโอกาสเพิ่มจำนวนผู้ติดตามแบรนด์จากฐานของผู้ติดตาม influencer ที่มาไลฟ์สดให้คุณได้เช่นกัน

การไลฟ์สดจึงเป็นกลยุทธ์สร้างยอดขายที่น่าสนใจ ที่เจ้าของธุรกิจควรหันมาให้ความสนใจอย่างจริงจัง เพราะในต่างประเทศเองแพลตฟอร์มใหญ่ ๆ ก็หันมาให้ความสำคัญกับกลยุทธ์นี้กันมากขึ้นด้วยเป็นกลยุทธ์ที่แบรนด์สามารถสื่อสารไปยังกลุ่มผู้ติดตามได้โดยตรงและคาดว่ากลยุทธ์นี้ก็จะยังคงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักที่น่าสนใจในการเพิ่มยอดขายสำหรับทั้งแบรนด์เล็ก แบรนด์ใหญ่ในอนาคตเช่นกัน