ChatGPT คู่แข่งที่ Google กลัวที่สุด

ท่ามกลางกระแสข่าวการมาถึง ChatGPT ระบบอัจฉริยะที่สามารถทำให้ AI มีการสนทนาตอบโต้กับผู้ใช้งานได้โดยไม่ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกว่ากำลังมีปฏิสัมพันธ์กับ Bot อีกต่อไป ในเวลานี้เองที่ทำให้เริ่มมีข่าวลือออกมาว่าทาง Microsoft กำลังให้ความสนใจและอยากจะนำตัวของ ChatGPT  เข้าไปรวมอยู่กับเครื่องมือค้นหาของตัว Microsoft อย่าง Bing

ทำไม Microsoft จึงอยากนำ ChatGPT ไปรวมกับระบบการค้นหาอย่าง Bing

ตามรายงานระบุว่า Microsoft กำลังวางแผนที่จะเปิดตัว Bing ในเวอร์ชันที่มีการนำเอา ChatGPT มาใช้เพื่อให้ระบบปฏิบัติการของ Bing สามารถที่จะตอบสนองต่อคำถามของผู้ใช้งานได้ดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งเราทราบกันดีอยู่แล้วว่าตัว AI ของ ChatGPT มีความสามารถมากเพียงใดและสามารถใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยมเพียงใด และสร้างอิมแพคต่อระบบไอทีของโลกนี้ได้อย่างไร ซึ่งทาง Microsoft คาดหวังว่าจะสามารถเปิดตัวคุณลักษณะใหม่ที่ว่านี้ก่อนสิ้นเดือนมีนาคมเพื่อให้ Bing สามารถแข่งขันกับ Google ได้มากขึ้น

สิ่งที่ทำให้ ChatGPT แตกต่างจาก Google และถูกมองว่าจะกลายเป็นคู่แข่งสำคัญที่เขย่าฐานของ Google

สิ่งที่ทำให้ ChatGPT ถูกกล่าวถึงมากอยู่ที่เทคโนโลยี AI ที่สร้างโดย Open AI ซึ่งหาก Microsoft นำเอาเทคโนโลยีนี้ไปใช้งานร่วมกับ Bing ได้จริงก็จะทำให้ Bing มีความสามารถในการตอบคำถามได้เหมือนกับมนุษย์มากขึ้นแทนที่จะเป็นเพียงการค้นหาลิงก์ต่าง ๆ และรวบรวมลิงก์ข้อมูลเหล่านั้นเพื่อนำเสนอต่อผู้ใช้งานที่เข้ามาค้นหาข้อมูลที่ต้องการในรูปแบบของลิงก์บนหน้าเพจ

ก่อนหน้านี้ Bing ค่อนข้างเป็นรอง Google อยู่หลายส่วนเพราะคลังข้อมูลของ Google นั้นมีปริมาณของข้อมูลที่มากมายมหาศาลและครอบคลุมเรื่องราวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวบุคคล สถานที่ องค์กรรวมถึงสิ่งต่าง ๆ ที่ผู้คนให้ความสนใจอยากจะค้นหาข้อมูลเหล่านี้

แต่หาก Bing สามารถนำเอาฟังก์ชั่นการทำงานของ ChatGPT มาใช้งานร่วมกับ Bing ได้ก็เป็นที่คาดการณ์กันเอาไว้ว่าจะเข้ามาช่วยยกระดับให้ Bing สามารถต่อกรกับตัวของ Google ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ โดยหาก Microsoft สามารถที่จะพัฒนาตัวของ Bing ให้มีความสามารถของ ChatGPT และพัฒนายกระดับความสามารถของ AI ตัวนี้เข้าไปอีกก็มีความเป็นไปได้ว่าจะทำให้ Bing ยกระดับไปได้ไกลกว่านี้อีกมากจากความหลากหลายของตัว AI ที่ถูกนำมาติดตั้งต่อยอดในภายหลัง

ความสามารถที่ซ่อนเร้นของ ChatGPT จนนำไปสู่การสะเทือนวงการไอทีโลก

ความสามารถที่เกิดจากการนำ AI ของ ChatGPT มาใช้งานมีปรากฏอยู่ตามหน้าสื่อต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นการช่วยให้ผู้ใช้งานสร้างบทกวี ช่วยในการเขียนเรียงความในระดับมหาวิทยาลัย รวมถึงการเขียนโค้ดโปรแกรม ซึ่งช่วยให้ผู้ที่นำ ChatGPT ไปใช้สามารถลดชั่วโมงการทำงานของตนเองลงได้ โดยตัวของ ChatGPTเป็นการต่อยอดและพัฒนามาจากตัวของ GPT-3.5 ซึ่งเป็น Chat bot โมเดลขนาดใหญ่ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว

ตัวของ ChatGPT ได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ใช้งานที่ได้มีโอกาสได้ลองใช้งาน Chat Bot นี้อยู่ไม่น้อยด้วยความสามารถในการสร้างคำตอบและเรียบเรียงคำตอบออกมาเป็นเรียงความที่ดูสมจริงตามหัวข้อต่าง ๆ ที่ถูกป้อนเข้าไปแต่แม้ว่าตัวของ ChatGPT จะมีความโดดเด่นเพียงใด ทีมพัฒนาก็ยังคงมองว่าระบบยังไม่ได้สมบูรณ์พร้อมทั้ง 100% และจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขเพื่อให้ระบบมีความสมบูรณ์มากกว่านี้

แม้แต่ Sam Altman ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็น CEO ของ OpenAI ก็เคยออกมาเตือนว่า “ถือเป็นความผิดพลาดอย่างมากหากคิดที่จะพึ่งพาตัวของ ChatGPT สำหรับเรื่องสำคัญทุก ๆ เรื่องในตอนนี้” และแม้ว่าแผนการที่จะรวม ChatGPT เข้ากับ Bing ที่ Microsoft วางไว้จะมีความสำคัญแต่กระนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นก่อนก็คือการที่บริษัทจะเริ่มต้นการรวมนี้ด้วยการออกเวอร์ชั่นเบต้าเพื่อให้ผู้ใช้งานได้ทดลองใช้ดูก่อนและทดลองการรวมการทำงานในจำนวนที่จำกัดเพื่อทดสอบระบบก่อนที่จะปล่อยตัวที่สมบูรณ์ให้ผู้ใช้ Bing ทุกคนได้ใช้งานจริง

ความเคลื่อนไหวในฝั่งของ Google

แม้ว่าทาง Microsoft จะเปิดตัวความร่วมมือกับทาง OpenAI เพื่อท้าทาย Google แต่กระนั้นในฝั่งของ Google เองก็ยังคงนิ่งเฉยอยู่ โดยทาง Google ให้เหตุผลในแง่ของความเสี่ยงทางด้านชื่อเสียงซึ่งมีรายงานว่าทาง Google พูดถึงปัญหาเรื่องของอคติและข้อเท็จจริงที่ว่า AI ของ Chat Bot ยังไม่พร้อมที่จะถูกนำมาใช้งานเพื่อแทนที่การค้นหาของทาง Google ในขณะนี้ เพราะทาง Google ใช้โมเดลภาษา AI ขนาดใหญ่มากมายเพื่อปรับปรุงเครื่องมือค้นหาของตนอย่างละเอียดมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว

ความสัมพันธ์ที่น่าจับตาระหว่าง Microsoft และ OpenAI

ในด้านของความสัมพันธ์เป็นที่แน่ชัดว่า Microsoft มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับ OpenAI โดยตัวของ Microsoft เองกำลังเพิ่มฟังก์ชั่น AI text-to-image model ให้กับ Bing ผ่านระบบการทำงานที่เรียกว่า DALL-E 2 ของ OpenAI โดย Microsoft ลงทุนไปกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2562 และมีใบอนุญาตพิเศษในการใช้ text generator AI GPT-3 ซึ่งข้อตกลงหลังนี้อาจทำให้การรวม Bing ของ ChatGPT ที่มีข่าวลือยังไม่ชัดเจนในขณะนี้

Microsoft ได้วางเดิมพันอนาคตกับ AI มาเป็นเวลาอย่างน้อย 6 ปี โดย Satya Nadella ซึ่งเป็น CEO ของ Microsoft ได้กล่าวถึงความสำคัญของแอปพลิเคชั่นที่ชาญฉลาดและการให้บริการในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ The Verge เมื่อปี 2016 โดยในปีเดียวกันนั้น Microsoft ได้เปิดตัว “แพลตฟอร์มการสนทนา” ที่มีการทำงานบนอินเทอร์เฟซที่ใช้การแชทแทนที่การใช้งานบนหน้าแอพซึ่งเป็นช่องทางหลักในการใช้อินเทอร์เน็ตและการค้นหาข้อมูล และดูเหมือนว่าหาก Microsoft รวมกับ ChatGPT ได้แล้วทาง Microsoft ต้องการที่จะลองทำให้ความสามารถในการโต้ตอบอันชาญฉลาดของ AI เป็นจริงใน Bing ให้ได้ในที่สุด