รวมหนี้เป็นก้อนเดียวดีไหม? คำตอบที่คุณต้องรู้ก่อนตัดสินใจ
การจัดการหนี้สินเป็นปัญหาที่คนไทยจำนวนไม่น้อยกำลังเผชิญอยู่ในยุคเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน การรวมหนี้เป็นก้อนเดียว หรือที่เรียกกันว่า “Debt Consolidation” ได้รับความสนใจมากขึ้นในฐานะทางเลือกที่ช่วยลดความยุ่งยากในการจัดการหนี้ และยังอาจช่วยลดภาระทางการเงินในระยะยาวได้ แต่คำถามสำคัญคือ “รวมหนี้เป็นก้อนเดียวดีไหม?” บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกข้อดี ข้อเสีย และปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ เพื่อให้คุณสามารถเลือกทางออกที่เหมาะสมกับสถานการณ์ทางการเงินของคุณมากที่สุด
รวมหนี้เป็นก้อนเดียวคืออะไร?
การรวมหนี้เป็นก้อนเดียว หมายถึง การรวมยอดหนี้จากหลายแหล่ง เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล หรือสินเชื่อบ้าน ให้อยู่ในสินเชื่อเดียวที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า โดยทั่วไปมักจะมาในรูปแบบของ สินเชื่อรีไฟแนนซ์ หรือ สินเชื่อส่วนบุคคลที่มีดอกเบี้ยต่ำ เมื่อทำการรวมหนี้แล้ว คุณจะต้องชำระเพียงแค่เจ้าหนี้รายเดียว และมีงวดชำระที่ชัดเจน
ข้อดีของการรวมหนี้เป็นก้อนเดียว
- ลดอัตราดอกเบี้ยรวม
บัตรเครดิตและสินเชื่อบางประเภทมักมีดอกเบี้ยสูงถึง 18-28% ต่อปี แต่สินเชื่อรวมหนี้มักมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า เช่น 5-10% ต่อปี การลดดอกเบี้ยนี้ช่วยประหยัดเงินในระยะยาวได้อย่างมาก - ชำระหนี้ง่ายขึ้น
แทนที่จะต้องจ่ายหลายงวดในแต่ละเดือน การรวมหนี้ช่วยลดความซับซ้อนในการจัดการ เพราะคุณจะมีงวดชำระเงินเพียงงวดเดียวเท่านั้น - ระยะเวลาชำระที่ยืดหยุ่น
สินเชื่อรวมหนี้มักเสนอระยะเวลาชำระที่ยาวกว่า เช่น 3-7 ปี ซึ่งช่วยลดภาระในการชำระรายเดือนได้ - ปรับปรุงเครดิตสกอร์
การชำระหนี้ให้ตรงเวลาและเต็มจำนวนตามที่กำหนดหลังรวมหนี้ อาจช่วยเพิ่มคะแนนเครดิต (Credit Score) ของคุณได้ในระยะยาว
ข้อเสียของการรวมหนี้เป็นก้อนเดียว
- ความเสี่ยงในการเป็นหนี้เพิ่ม
แม้จะลดดอกเบี้ยและยอดชำระรายเดือน แต่หากคุณยังคงใช้จ่ายเกินตัวหรือสร้างหนี้ใหม่ คุณอาจตกอยู่ในวงจรหนี้ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม - ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
การรวมหนี้มักมีค่าธรรมเนียม เช่น ค่าธรรมเนียมการกู้ ค่าดำเนินการ หรือค่าปรับสำหรับการปิดบัญชีหนี้เดิม - อาจต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน
ในบางกรณี สินเชื่อรวมหนี้ที่มีดอกเบี้ยต่ำอาจต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน เช่น บ้านหรือรถยนต์ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงหากคุณไม่สามารถชำระหนี้ได้ - ระยะเวลาชำระที่ยาวขึ้น
แม้ว่าการยืดระยะเวลาชำระจะช่วยลดยอดชำระรายเดือน แต่ก็อาจทำให้คุณต้องจ่ายดอกเบี้ยรวมที่มากขึ้นในระยะยาว
ปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนการรวมหนี้
- อัตราดอกเบี้ยใหม่
ตรวจสอบว่าสินเชื่อรวมหนี้ที่คุณสนใจมีดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าหนี้เดิมหรือไม่ เพื่อให้การรวมหนี้เป็นการประหยัดจริง ๆ - ความสามารถในการชำระหนี้
ประเมินรายได้และรายจ่ายของคุณ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถชำระหนี้ใหม่ได้ตรงเวลาโดยไม่กระทบต่อค่าใช้จ่ายอื่น ๆ - นโยบายของผู้ให้กู้
อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับค่าธรรมเนียม เงื่อนไข และข้อกำหนดต่าง ๆ ของสินเชื่อให้รอบคอบ - พฤติกรรมการใช้จ่ายของตัวเอง
หากคุณยังไม่เปลี่ยนนิสัยการใช้จ่าย การรวมหนี้อาจไม่ช่วยแก้ปัญหาในระยะยาว
รวมหนี้เป็นก้อนเดียวเหมาะกับใคร?
การรวมหนี้เป็นก้อนเดียวเหมาะสำหรับคนที่:
- มีหนี้หลายประเภทและต้องการลดความซับซ้อนในการชำระหนี้
- มีหนี้ที่ดอกเบี้ยสูงและต้องการลดดอกเบี้ย
- มีรายได้ที่มั่นคงและสามารถชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไขใหม่
- พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเงินและไม่สร้างหนี้ใหม่เพิ่ม
ตัวอย่างสถานการณ์
นายเอ: สถานการณ์ก่อนรวมหนี้
- หนี้บัตรเครดิต: 100,000 บาท (ดอกเบี้ย 18% ต่อปี)
- สินเชื่อส่วนบุคคล: 50,000 บาท (ดอกเบี้ย 15% ต่อปี)
ยอดรวมดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายต่อปี: 27,000 บาท
นายเอ: หลังรวมหนี้
- รวมหนี้เป็นสินเชื่อใหม่ 150,000 บาท (ดอกเบี้ย 8% ต่อปี)
ยอดรวมดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายต่อปี: 12,000 บาท
นายเอประหยัดดอกเบี้ยได้ถึง 15,000 บาทต่อปี
สรุป: รวมหนี้เป็นก้อนเดียวดีไหม?
คำตอบของคำถามนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของแต่ละบุคคล หากคุณสามารถควบคุมการใช้จ่ายได้ และสินเชื่อรวมหนี้ใหม่มีดอกเบี้ยต่ำกว่าหนี้เดิม การรวมหนี้อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่ช่วยให้คุณลดภาระการเงินและชำระหนี้ได้เร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม หากคุณยังไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเงิน การรวมหนี้อาจไม่ช่วยแก้ปัญหาในระยะยาว
บริการอบรม ให้คำปรึกษาการทำธุรกิจออนไลน์ ฝึกอบรมภายในบริษัท แบบตัวต่อตัว การทำ Content Marketing,การโฆษณา Facebook,การโฆษณา Tiktok,การตลาด Line OA และการทำสินค้าให้คนหาเจอบน Google
บริการดูแลระบบการตลาดออนไลน์ให้ทั้งระบบ
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสารความรู้การทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ Add Line id :@taokaemai
รับชมคลิป VDO ความรู้ด้านการตลาด กรณีศึกษาธุรกิจ แหล่งเงินทุนน่าสนใจ ติดตามได้ที่ช่อง Youtube : Taokaemai เพื่อนคู่คิดธุรกิจ SME