การขายเสื้อผ้าแฟชั่นอาจจัดเป็นธุรกิจปราบเซียนของใครหลายคน แต่เชื่อเถิดว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจนี้ และโดยมากผู้ที่ประสบความสำเร็จก็มักมีสิ่งที่เหมือน ๆ กันคือ ความใส่ใจในรายละเอียดแม้เพียงเล็กน้อยซึ่งผู้ที่ล้มเหลวไม่มีทางเข้าใจ

เสื้อผ้าแฟชั่น เป็นสินค้าที่พบเห็นได้เยอะที่สุดไม่ว่าจะเป็นบนห้างสรรพสินค้า ตามแหล่งช็อปปิ้งมอลล์ หรือแม้กระทั่งตามตลาดนัด นั่นก็เพราะมันเป็นสินค้าที่มีตลาดขนาดใหญ่และความต้องการสูง มีกลุ่มลูกค้ามากมายหลายกลุ่ม นั่นเองจึงเป็นเหตุให้มีผู้สนใจลงมาเล่นในธุรกิจนี้กันมาก วงการนี้เป็นอีกวงการที่มีการแข่งขันกันดุเดือดที่สุดวงการหนึ่ง อัตราการเกิดของพ่อค้าแม่ค้าหน้าใหม่มีสูง แต่อัตราการรอดชีวิตกลับต่ำมาก หลายร้านที่เกิดขึ้นมาดำเนินการได้ไม่เท่าไรก็มีอันพับเสื่อกลับบ้านไปเลียแผลใจ ถ้าคุณไม่อยากเป็นผู้แพ้ในสมรภูมิรบนี้ เรามาดูกันว่าร้านที่ “ปัง”และร้านที่ “พัง” เขาทำกิจการต่างกันอย่างไร

ถอด 4 บทเรียนความพัง ธุรกิจที่ล้มเหลวเขาทำกันอย่างไร

1. ไม่มีความรู้ในธุรกิจที่ตัวเองทำแล้วยังไม่ยอมศึกษา

อยากขายเสื้อผ้าแฟชั่นไม่ใช่แค่ว่าไปเหมาเสื้อผ้ามาแล้วมาหาที่ขาย หรือเห็นคนอื่นขายดีแล้วอยากทำตามบ้าง ถ้าไม่มีความรู้และไม่ยอมทำการบ้านศึกษาหาข้อมูลในเรื่องที่เกี่ยวข้อง จากฝันที่ดูหวานชื่นมันจะเปลี่ยนสภาพกลายเป็นฝันร้ายในภายหลัง ถ้าคุณไม่ยอมเหนื่อยทำการบ้าน อย่าก้าวมาทำธุรกิจเด็ดขาด

2. ไม่รู้จุดแข็งของตนเอง

ธุรกิจจะประสบความสำเร็จ คุณต้องรู้จักจุดเด่น จุดแข็งของตนเองและทำในสิ่งที่ตรงกับจุดแข็งของคุณ ถ้าคุณชอบเสื้อผ้าแฟชั่นคุณก็ต้องเลือกขายในสิ่งที่เป็นสไตล์ของคุณเพราะคุณรู้จักมันดีพอ คุณถึงจะเข้าใจตลาดว่าลูกค้าต้องการอะไร การทำอะไรโดยไม่เข้าใจตัวเอง คุณกำลังดำเนินธุรกิจบนความเสี่ยง แม้ช่วงแรกอาจจะไปได้ แต่เมื่อใดที่เกิดปัญหา ความไม่เข้าใจอันเป็นจุดอ่อนมันจะย้อนกลับมาเล่นงานคุณ

3. ขาดการวางระบบบริหารจัดการที่ดี

กับดักของพ่อค้าแม่ค้าคือ ขาดการวางระบบบริหารนี่แหละ โดยเฉพาะเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เชื่อหรือไม่ว่ามีร้านค้าหลายร้านที่ต้องปิดตัวลงทั้ง ๆที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แม้ว่าคุณจะมียอดขายที่พุ่งกระฉูดเพียงใด แต่ถ้าการบริหารจัดการสต๊อก การวางระบบบัญชี  และการจัดการภายในไม่ดีพอ คุณมีโอกาสสะดุดหัวทิ่มแบบงง ๆว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณกันแน่

4. กู้เงินมาทำธุรกิจ

สิ่งนี้คือความพินาศที่สร้างความเสียหายแก่ผู้เริ่มต้นกิจการมากที่สุดเพราะโลกธุรกิจสิ่งที่น่ากลัวเป็นลำดับต้น ๆคือ “ภาระดอกเบี้ย” การกู้เงินมาทำธุรกิจสามารถทำได้ ถ้าธุรกิจคุณดำเนินมาสักระยะและคุณเห็นว่ามันไปต่อได้ คุณก็กู้มาขยายโอกาส แต่ถ้าหากคุณกู้เงินมาเพื่อเริ่มต้นธุรกิจตั้งแต่แรกโดยคุณยังไม่เคยเห็นของจริงเลย ถ้าสิ่งที่คิดไว้มันพลิกโผผิดไปจากที่คาด การกู้หนี้ยืมสินมาทำการค้า คุณจะเจ็บตัวหนักกว่าการใช้เงินเก็บตัวเองมาเป็นทุนครับ

8 กลเม็ดสู่ความสำเร็จขายเสื้อผ้าแฟชั่นอย่างไรถึงไม่เจ๊ง

1. จะทำอะไรให้ได้ดี ใจต้องรักและพร้อมทุ่มเท

วงการแฟชั่นมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างไว สิ่งที่เป็นกระแสในเดือนนี้อาจตกเทรนด์ในอีกไม่กี่เดือน ถ้าใจคุณไม่รักไม่ชอบมันจะเป็นเรื่องที่เหนื่อยมาก นั่นเพราะคุณต้องศึกษาต้องใช้เวลาอยู่กับมันเกือบจะทั้งวัน และต้องตามให้ทันการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วมากของแฟชั่น อย่าคิดเข้ามาขายเพราะอยากรวยเพียงอย่างเดียว ถ้าคุณไม่รักไม่ชอบจริง ธรรมชาติการแข่งขันของวงการนี้ก็พร้อมที่จะคัดคุณออกครับ

2. จะเลือกขายสินค้าอะไร ต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและสไตล์ที่โดดเด่น

ถ้าคิดจะขายเสื้อผ้าแฟชั่น นอกจากการตามกระแสให้ทันอยู่เสมอแล้ว คุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคิดอะไรให้ล้ำหน้ากว่าคนอื่นหนึ่งก้าวเสมอ แม้จะเป็นแฟชั่นที่กำลังนิยมเหมือนกัน แต่ตัวตัดสินอยู่ที่สินค้าใครมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสไตล์ที่โดดเด่นสะดุดตามากกว่ากัน การขายสินค้าตาม ๆ กันไปหรือร้านอื่นมีร้านเราก็ต้องมีเหมือนเขา และในไม่ช้าก็จะเกิดสงครามราคาและการตัดแต้มกันเอง ท้ายที่สุดก็จะพินาศม้วนเสื่อไปพร้อม ๆ กัน

3. มี Story ที่ชัดเจน ร้านและสินค้าของเราขาย “ให้ใคร”

เนื่องด้วยแฟชั่นเป็นคำที่กินวงกว้างมาก สามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มยิบย่อยได้เยอะ หากคิดจะขายเสื้อผ้าแฟชั่นก็ควรจะกำหนดกลุ่มเป้าหมายของเราให้ชัดเจนไปเลย ว่าเราจะขายสินค้าของเราให้คนกลุ่มไหน เพราะมันจะช่วยให้เราวางคอนเซปต์ของสินค้าและหน้าร้านได้ง่ายขึ้น ร้านไหนที่มี Story ชัดเจน มีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนย่อมจะสื่อสารไปถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายและตรงกว่า อย่าปล่อยให้ร้านของเรามีสินค้า “จับฉ่าย” คือกว้างมากเกินไป เพราะจะกำหนดกลุ่มเป้าหมายอะไรไม่ได้เลย

4. มีการขายที่ผสมผสานระหว่างหน้าร้านและออนไลน์

แม้ปัจจุบันจะเป็นยุคแห่งการค้าออนไลน์ แต่คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าลูกค้าจะเจอร้านของคุณเพราะคู่แข่งของคุณมีมากเหลือเกิน ถ้าหวังพึ่งพาแต่หนทางออนไลน์เพียงอย่างเดียว คุณอาจตกอยู่ในความยากลำบากได้ การมีหน้าร้านจะยิ่งสร้างความน่าเชื่อถือให้กับคุณมากยิ่งขึ้น ยิ่งถ้าคุณนำจุดเด่นของทั้ง 2 แบบมาผสมผสานกัน โอกาสแห่งความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลเกินคุณเอื้อมถึง

5. หาแหล่งผลิตที่น่าเชื่อถือได้คุณภาพและไว้ใจได้

หากคิดและมั่นใจแล้วว่าจะขายเสื้อผ้าแฟชั่นจริง ๆ อีกหนึ่งการบ้านที่คุณต้องลงมือทำคือ การหาแหล่งผลิตสินค้าที่น่าเชื่อถือและไว้ใจได้ เพราะมันเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการร้านค้าของคุณโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบริหารต้นทุน การวางระบบจัดการสต็อก ถ้าแหล่งผลิตสินค้าที่คุณหาไม่มีความน่าเชื่อถือ คุณอาจสูญเสียเงินทุนไปกับสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือถ้า supplier ส่งสินค้าให้คุณล่าช้าไม่ทันกำหนด พวกนี้คือปัญหาใหญ่ที่จะทำให้คุณเสี่ยงขาดทุนหรือเจ๊งจนต้องปิดกิจการไปเลย

6. กำลังซื้อคือตัวกำหนดกลุ่มเป้าหมาย

กำลังซื้อของลูกค้าคือตัวช่วยตัดสินใจว่าเราจะไปทางใด แม้ลูกค้าจะมีรสนิยมชื่นชอบแฟชั่นสไตล์เดียวกัน แต่สิ่งที่ต่างกันคือความชอบต่อแบรนด์ บางคนติดของแบรนด์เนม ในขณะที่บางคนขอเพียงตามแฟชั่นก็พอโดยไม่สนใจเกรดของสินค้า เมื่อคุณอยากขายเสื้อผ้าแฟชั่นคุณควรจะคิดต่อไปอีกว่า คุณอยากขายสินค้าให้คนที่มีกำลังซื้อแบบใด เพราะการบ้านที่คุณจะต้องทำต่อจากนี้มันต่างกันโดยสิ้นเชิง

7. ทำเลทอง ถูกที่ถูกเวลามีแต่ปังกับปัง

ทุก ๆ การค้าขาย “ทำเล” คือสิ่งที่ชี้ชะตาชีวิตของธุรกิจ เมื่อคุณกำหนดรูปแบบสินค้าได้แล้วว่าคุณจะขายเสื้อผ้าแฟชั่นแนวไหนและขายให้ใคร ทำเลที่คุณเลือกมันต้องสอดคล้องกับสินค้าของคุณ มันต้องอยู่ในจุดที่กลุ่มเป้าหมายของคุณต้องผ่านเป็นประจำ หากคุณไม่เคยเห็นเสื้อผ้าวัยรุ่นไปวางขายตามเยาวราช คุณก็คงไม่เคยเห็นเสื้อผ้าตลาดนัดไปอยู่บนห้างหรูเช่นกัน การเลือกทำเลไม่ใช่แค่มองว่าร้านคุณจะอยู่ในย่านคนพลุกพล่านหรือไม่เท่านั้น แต่หากมันอยู่ผิดที่ผิดตำแหน่งความพังก็บังเกิดกับธุรกิจคุณได้เช่นกัน

8. ความประทับใจของการบริการ

แม้ว่า “ลูกค้าไม่ใช่พระเจ้า” แต่ลูกค้าก็เป็นคนที่เอาเงินมาให้เรา ความประทับใจคือสิ่งที่เราต้องสร้างให้เกิดขึ้นให้ได้ ถ้าลูกค้าประทับใจ คุณแทบไม่ต้องเสียเวลาโปรโมทยอดขาย เพราะมันจะมาหาคุณถึงที่ อย่าคิดว่าการขายเสื้อผ้าไม่ใช่งานบริการ แม้จะไม่ใช่โดยตรง แต่การช่วยตอบคำถาม การแสดงความจริงใจในการขาย ในการช่วยเหลือให้คำแนะนำ สิ่งเหล่านี้คือความประทับใจที่จะดูดลูกค้าให้มาซื้อของของคุณครับ จำไว้ว่าถ้าคิดจะขายของคุณอย่าสักแต่เพียงว่าจะขายของให้ได้เท่านั้น แต่คุณต้องสร้างบ่อดักลูกค้าให้สำเร็จ ลูกค้าที่คุณดักได้นั้นจะเป็นคนดึงให้คนอื่น ๆตามมาซื้อของของคุณ

การขายเสื้อผ้าแฟชั่นอาจจัดเป็นธุรกิจปราบเซียนของใครหลายคน แต่เชื่อเถิดว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจนี้ และโดยมากผู้ที่ประสบความสำเร็จก็มักมีสิ่งที่เหมือน ๆ กันคือ ความใส่ใจในรายละเอียดแม้เพียงเล็กน้อยซึ่งผู้ที่ล้มเหลวไม่มีทางเข้าใจ

บทความเกี่ยวกับการทำการตลาดออนไลน์

เริ่มต้นธุรกิจอย่างไรไม่ให้เจ๊ง !!!