Utility token หรือหากเราจะอธิบายให้ง่ายคือเหรียญโทเคนประจำแพลตฟอร์มเป็นเหรียญสกุลดิจิทัลส่วนใหญ่ที่นักลงทุนนิยมถือครองเพื่อการลงทุนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยพื้นฐานของเหรียญที่มีสิ่งรองรับ ทำให้การถือครองเหรียญประเภทนี้สร้างความอุ่นใจให้กับนักลงทุนในระดับหนึ่ง เหรียญชนิดนี้มักมีการทำงานอยู่บนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย รวมถึงถูกใช้บน Exchange platform ด้วยเช่นกัน ในบทความนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับอีกหนึ่งเหรียญโทเคนที่มีการใช้งานอยู่บนแพลตฟอร์ม Exchange กับเหรียญ CRV เหรียญประจำ Curve Finance กันให้มากขึ้น

เหรียญ CRV คืออะไร

เหรียญ CRV เป็นเหรียญประจำแพลตฟอร์ม Exchange ที่ชื่อ Curve Finance ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแบบกระจายศูนย์หรือที่เรียกว่า Decentralized Exchange โดยมีการทำงานอยู่บน Ethereum blockchain คล้ายกับแพลตฟอร์ม Exchange อย่าง Uniswap แต่ตัวของ Curve Finance มุ่งเน้นไปที่ตัวของ stablecoin เป็นหลัก

จุดเด่นของ Curve Finance อยู่ที่การทำธุรกรรมของ stablecoin จะมีค่า slippage ต่ำโดยจะคล้ายคลึงกับของ Uniswap แต่ทว่าอัลกอริทึมของ Curve Finance ได้ถูกสร้างขึ้นให้มีค่าธรรมเนียมหรือค่า Gasที่ต่ำกว่ามากเพียงแค่ 0.04% เท่านั้น

ระบบการตรวจสอบการทำธุรกรรมของ Curve Finance จะใช้ระบบ Automated Market Maker หรือ AMM ที่มีจุดเด่นคือสามารถควบคุมสภาพคล่องของกระดานซื้อขายได้อย่างอัตโนมัติ โดยระบบตรวจสอบนี้ต้องมีผู้ทำการ Stake เหรียญเพื่อล็อคเหรียญเอาไว้ในตัวของ Curve Finance ซึ่งแพลตฟอร์มสามารถรับฝากเหรียญได้นานสูงสุดถึง 4 ปีเพื่อช่วยเสริมสร้างสภาพคล่องให้กับตัวของแพลตฟอร์มเองและทำให้ผู้ฝากสามารถทำกำไรจากค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มได้ และยิ่งหากมีการแลกเปลี่ยนกันมากเท่าใด กำไรสำหรับผู้ทำการล็อคเหรียญเอาไว้บนแพลตฟอร์มก็จะยิ่งสูงมากขึ้นตามไปด้วย

กระดานเทรด StableCoin นี้ถูกสร้างจากอัลกอริทึมที่มีแนวความคิดที่ว่าแม้ stablecoin จะมีความผันผวนมากเพียงใด ในระยะยาวมันไม่ควรทำให้นักลงทุนขาดทุนมากนักจึงเป็นที่มาของกระดานเทรด StableSwap โดยเฉพาะนี้ขึ้นมา

นอกจากนี้การล็อคเหรียญยังสามารถสร้างผลตอบแทนจากการให้กู้ได้อีกด้วยซึ่งทาง Curve Finance จะให้ดอกเบี้ยเพิ่มเติมมากกว่าค่าธุรกรรมที่นักลงทุนจะได้รับ

นับตั้งแต่การเปิดตัวในช่วงเดือนมกราคม 2020 ซึ่งเป็นช่วงที่กระแส DeFi กำลังได้รับความนิยมจึงทำให้ Curve Finance ได้รับผลตอบรับที่ค่อนข้างดีตามไปด้วย จนนำไปสู่การเปิดตัว CurveDAO ที่ให้ผู้ใช้งานมีส่วนร่วมในการกำหนดและตัดสินนโยบายสำหรับการพัฒนาแพลตฟอร์มได้นั่นเอง

ผู้ก่อตั้ง Curve Finance คือ Michael Egorov ชาวรัสเซียที่มีประสบการณ์ในแวดวงคริปโตเคอเรนซีมาอย่างยาวนานเช่นการร่วมงานกับ NuCypher รวมถึงการก่อตั้งเครือข่าย LoanCoin ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับฝากและกู้ยืมเงินดิจิทัล

Curve Finance มีเหรียญ CRV ในระบบทั้งสิ้น 3.3 พันล้านเหรียญ

เหรียญ CRV ดีไหม  ใช้ทำอะไร ใช้ที่ไหนบ้าง

เหรียญ CRV เป็นเหรียญหลักของ Curve Finance จึงมีหน้าที่และการใช้งานดังต่อไปนี้

  • ใช้เป็นค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมต่าง ๆ บนแพลตฟอร์ม
  • ใช้เป็นรางวัลที่มอบให้กับผู้ที่นำเหรียญมาล็อคเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับระบบ
  • เป็น Governance Token ที่มอบอำนาจให้กับผู้ที่ถือครองเหรียญสามารถเสนอนโยบายสำหรับการพัฒนาแพลตฟอร์มรวมถึงให้สิทธิ์ในการโหวตเพื่อสนับสนุนมติต่าง ๆ หรือนโยบายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนี้อีกด้วย

เหรียญ CRV ดีไหม  อนาคตจะเป็นอย่างไร

เหรียญ CRV ดีไหม

Curve Finance ค่อนข้างมีพื้นฐานการดำเนินการที่ชัดเจนไม่น้อยในการเป็นกระดานเทรดเหรียญคริปโตโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของเหรียญที่เรียกว่า StableCoin ซึ่งเป็นเหรียญที่มีมูลค่าอ้างอิงกับเงินสกุลหลักของหลาย ๆ ประเทศ ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้แม้จะมีความผันผวนอยู่บ้างแต่ความผันผวนนั้นย่อมน้อยกว่าตัวของเหรียญคริปโตชนิดอื่น ๆ นั่นเอง ด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้นักลงทุนจำนวนหนึ่งให้ความสนใจและตอบรับตัวของแพลตฟอร์มนี้เป็นอย่างดี ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ย่อมส่งผลให้ทั้งตัวของแพลตฟอร์มและเหรียญมีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน

แต่หากจะพูดถึงจุดเด่นที่ทำให้ตัวของ Curve Finance ได้รับความนิยมก็ย่อมหนีไม่พ้นระบบการทำงานที่เอื้อประโยชน์ให้กับนักลงทุนไม่ว่าจะเป็น StableSwap ที่มี slippage ที่ต่ำซึ่งจะมีผลเป็นอย่างมากต่อคำสั่งซื้อที่มีมูลค่าสูง ๆ อัตราค่าธรรมเนียมหรือค่า Gas ที่ต่ำเพียง 0.04 % ระบบการตรวจสอบการทำธุรกรรมที่เกิดขึ้นที่ทำให้การแลกเปลี่ยนเหรียญมีความไหลลื่นและต่อเนื่อง รวมไปถึงผลตอบแทนในการ stake เหรียญและการให้กู้ยืมเหรียญ สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่มีผลที่ทำให้ตัวของแพลตฟอร์มเติบโตได้ในอนาคตและส่งผลในเชิงบวกกลับไปสู่ตัวของเหรียญ CRV ด้วยเช่นกัน

 

เหรียญ CRV เป็นอีกหนึ่งเหรียญในกลุ่ม DeFi ประเภท Exchange ที่น่าสนใจและมีโอกาสที่จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้ในอนาคตตามความนิยมและกระแสตอบรับที่ดีของตัวแพลตฟอร์มเอง แต่ทั้งนี้แม้ว่าจะมีผลตอบรับที่ดีเพียงใด สำหรับนักลงทุนเองก็ยังคงต้องหมั่นติดตามข่าวสารเกี่ยวกับนโยบายของทางแพลตฟอร์มเช่นกันว่าในอนาคตจะมีแนวทางในการพัฒนาแพลตฟอร์มอย่างไร รวมถึงการประเมินแพลตฟอร์มคู่แข่งที่มีอยู่และกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย อีกหนึ่งเรื่องก็คือแม้ว่าในปัจจุบัน Curve Smart Contract ได้ผ่านการตรวจสอบ Trail of Bits แล้ว แต่แม้จะผ่านการตรวจรับรองแล้วก็ตามก็ใช่ว่าจะสามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่าง ๆ ทั้งหมดได้ดังนั้นนักลงทุนเองก็ยังคงต้องลงทุนด้วยความระมัดระวังเช่นกัน