หนี้เสียจากบัตรเครดิตคือสิ่งชี้วัดพฤติกรรมการใช้เงินของคนได้ดีที่สุด ว่ามีพฤติกรรมใช้เงินเกินตัวหรือไม่ด้วยอำนาจใช้จ่ายที่มากขึ้นมันคือดาบ 2 คมที่ให้ทั้งคุณและโทษแก่ผู้ใช้

เชื่อหรือไม่ว่าในปัจจุบัน ปัญหาหนี้สินถือเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทยที่ทำให้เกิดปัญหาและผลกระทบที่ตามมาอีกมากตั้งแต่ระดับครัวเรือนไปจนถึงระดับชาติ ปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนสะท้อนถึงวินัยทางการเงินของคนในชาติเป็นอย่างดีว่าเรามีวินัยในเรื่องเงินทองมากน้อยเพียงใด ตามข้อมูลที่ปรากฏเราพบว่าทุกปี มักมีปัญหาหนี้เสียเพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี จากมูลหนี้สำคัญ ๆ ที่คนไทยมักเป็นกันและหนี้บัตรเครดิตก็เป็นหนี้สำคัญ 1 ในนั้นเช่นกัน

หนี้เสียจากบัตรเครดิตคือสิ่งชี้วัดพฤติกรรมการใช้เงินของคนได้ดีที่สุด ว่ามีพฤติกรรมใช้เงินเกินตัวหรือไม่ด้วยอำนาจใช้จ่ายที่มากขึ้นมันคือดาบ 2 คมที่ให้ทั้งคุณและโทษแก่ผู้ใช้ หากคุณเป็นผู้หนึ่งที่ถือครองบัตรเครดิตอยู่แล้วล่ะก็ คุณได้ถามตัวเองหรือยังว่าคุณรู้จักมันดีแค่ไหน ถ้ายังไม่รู้จักมันดีพอมารู้จักมันสักนิดก่อนคิดที่จะรูดปรื้ด

บัตรเครดิต  จุดเริ่มต้นหายนะของคนใช้เงินไม่คิด

ความรู้สึกแรกเมื่อคำขออนุมัติบัตรเครดิตผ่านและได้บัตรสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ มาอยู่ในมือ เชื่อว่าหลายคนคงรู้สึกไม่ต่างกันคือความลำพองใจ เพราะอำนาจการซื้อมาอยู่ในมือเราแล้ว ขอแค่มีเงินจ่ายบัตรปลายเดือนก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เราควบคุมมันได้อยู่แล้ว

แต่เชื่อเถอะสิ่งที่คุณคิดมันไม่มีทางเกิดขึ้นจริงในแง่ของการปฏิบัติ หลังจากสลิปเดือนแรกออกและไม่มีปัญหาใด ๆ ที่จะปิดยอดนั้น ยอดการใช้บัตรเครดิตจะค่อย ๆ สูงขึ้นโดยไม่รู้ตัวเพราะคำพูดที่ว่า ไม่เป็นไรเดี๋ยวปลายเดือนค่อยจ่ายทีเดียว

เมื่ออำนาจใช้จ่ายอยู่ในมือก็เป็นธรรมดาที่เราย่อมหมายปองสิ่งที่อยากได้และทุกครั้งก็จบลงที่การ “รูดบัตร” และยิ่งถ้าสินค้าตัวไหนมีโปรผ่อนชำระ o% กับบัตรเครดิตด้วยแล้ว โอ๊ยสบาย สินค้าหลักหมื่นผ่อนเดือนไม่เท่าไหร่ ไม่กี่เดือนก็หมด

พอนานวันเข้าเริ่มหมุนเงินไม่พอปิดยอดแต่ละเดือนวิญญาณโลกสวยก็ยังคงเข้าสิง อุ๊ย ไม่เป็นไร เค้ามีให้ชำระขั้นต่ำ งั้นจ่ายขั้นต่ำไปก่อนก็ได้

พอบัตรเดิมวงเงินเริ่มปริ่มเพดาน หาสมัครใบใหม่ดีกว่า เงินเดือนเราถึงอยู่แล้ว สบาย แล้ววงจรอุบาทว์ก็ครบถ้วนสมบูรณ์แบบคราวนี้ทั้งหนี้บัตรใบเก่า หนี้บัตรใบใหม่ก็ประดังกันเข้ามายิ่งกว่าน้ำหลากในฤดูมรสุม กว่าจะรู้ตัวอีกทีหนี้ก็บาน หัวก็ฟูเพราะไม่รู้จะทำอย่างไร

เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะการไม่ยั้งคิดเพียงอย่างเดียวที่กว่าจะผ่านพ้นมาได้ก็เล่นเอาผู้ประสบเหตุแทบรากเลือดเลยทีเดียว ถือเป็นบทเรียนล้ำค่าและเปลี่ยนชีวิตให้รู้จักคิดก่อนใช้จ่ายมาจนถึงทุกวันนี้

ดอกเบี้ยบัตรเครดิต ซาตานในคราบนักบุญ

คุณรู้ไหมว่าทุก ๆ การรูดบัตรเครดิตมันมีค่าใช้จ่ายหรือดอกเบี้ยทั้งนั้นและราคาที่ต้องจ่ายก็ไม่ถูกเอาเสียเลย เพราะดอกเบี้ยของบัตรเครดิตทุก ๆ การรูดใช้มีดอกเบี้ยที่ 20% ครับ ซึ่งถือว่าสูงมากแต่ถ้าคุณจ่ายชำระยอดตรงตามกำหนดและครบถ้วนทุกบาททุกสตางค์ คุณได้รับสิทธิ์ช่วงระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย 45 วันคุ้มครองไม่ให้ซาตานในคราบดอกเบี้ยมาทำร้ายคุณได้ตราบเท่าที่คุณยังอยู่ในเงื่อนไขนั้น แต่ทว่าคุณจะถูกฤทธิ์ดอกเบี้ยเล่นงานทันทีเมื่อคุณทลายเกราะคุ้มครองนั้นโดยการชำระยอดไม่ครบหรือการเลือกจ่ายขั้นต่ำ เดือนต่อไปเรายังคงปลอดดอกเบี้ย 45 วันเช่นเดิม เพราะเราจ่ายทุกเดือนไม่ได้ผิดนัดเสียหน่อย คุณคิดผิดแล้วเพราะเกราะป้องกันจะทำงานอีกครั้งก็ต่อเมื่อคุณไม่มีหนี้ใด ๆ ค้างอยู่อีกแล้วครับ

ถ้าพลาดท่าเป็นหนี้บัตรเครดิตเสียแล้ว เราจะทำอย่างไร ?

        1. เจรจาปรึกษากับสถาบันเจ้าของบัตร หาวิธีประนอมหนี้บัตรเครดิต

ถ้าคุณมียอดชำระเกินกว่าที่คุณจะจ่ายไหว ลองปรึกษากับทางสถาบันเจ้าของบัตรดูก่อนครับว่าจะมีวิธีการใดได้บ้างที่จะช่วยเหลือเราได้ หากคุณมีประวัติการชำระเงินที่ตรงเวลาทุกครั้ง เพราะการเจรจามันแสดงถึงความจริงใจของคุณ

        2. ชำระบางส่วนหรือชำระขั้นต่ำ เพื่อไม่ให้เสียเครดิต

หากจำเป็นจริง ๆ ที่คุณไม่สามารถชำระเงินเต็มจำนวนได้ ก็ขอให้คุณชำระยอดบางส่วนหรือชำระขั้นต่ำเพื่อรักษาเครดิตของคุณไว้ เพราะหากคุณมีประวัติค้างชำระหนี้แล้ว คุณจะขอสินเชื่อหรือทำธุรกรรมเกี่ยวกับสินเชื่อไม่ได้ไปตลอด 3 ปี เต็มๆ และเมื่อจ่ายชำระเพียงบางส่วนไปแล้วคุณควรจะหาทางชำระส่วนที่เหลือโดยเร็วที่สุดครับ

        3. วางแผนการเงินและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเอง

การเป็นหนี้คือสิ่งสะท้อนวินัยทางการเงินที่ไร้ประสิทธิภาพของคุณอย่างดี เมื่อเริ่มมีหนี้หรือกำลังจะปริ่ม ๆ จงหันกลับมาดูพฤติกรรมการใช้เงินของตนเองอีกครั้ง ว่าข้อผิดพลาดอยู่ตรงไหนและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านั้นทันที รวมถึงวางแผนการเงินอย่างละเอียดและควรมีสรุปรายจ่ายทุก ๆ เดือนเพื่อประกอบการวางแผน เพื่อคุณจะได้ตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป จำไว้ว่ารายจ่ายที่ลดลงมันคือตัวเงินที่เพิ่มขึ้นในกระเป๋าเงินของคุณแม้ว่าคุณจะมีหนี้บัตรเครดิตมากเพียงใด จำไว้ว่าคุณไม่จำเป็นต้องทุ่มเงินที่คุณหามาได้ลงไปกับการใช้หนี้ทั้งหมด ตราบเท่าที่คุณไม่ได้ผิดนัดชำระ แต่ยอดการใช้หนี้ก็ไม่ควรน้อยเกินไปจนมันผูกพันกับคุณยาวนานนัก การทุ่มเงินใช้หนี้มากไปโดยไม่บริหารดี ๆ คุณเองจะเป็นฝ่ายเดือดร้อน หากมีรายได้พิเศษหรือโบนัสคุณค่อยโปะหนี้นั้น

        4. หากบัตรใดคุณจ่ายไม่ครบยอดไปแล้ว ก็อย่าเพิ่งใช้มันรูดซื้อสินค้า

        เมื่อใดก็ตามที่คุณชำระเงินไม่ครบตามยอด ระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยคุณถูกยกเลิกไปแล้วดังนั้นทุก ๆ ยอดรูดซื้อของคุณจะถูกคำนวณดอกเบี้ยไปตลอดจนกว่าคุณจะปิดยอดเก่าทั้งหมด อย่าพลาดท่าไปเพิ่มยอดนี้โดยไม่รู้เท่าไม่ถึงการณ์

        5. หาข้อมูลวิธีแก้ปัญหา ทุกปัญหามีทางออกเสมอ

หากคุณมีหนี้บัตรที่ผิดนัดชำระและอับจนหนทางในการชำระหนี้ ลองค้นหาข้อมูลหรือปรึกษากับทางสถาบันการเงินครับ เพราะมันมีโครงการสินเชื่อเพื่อปิดหนี้บัตรเครดิตที่ดอกเบี้ยต่ำกว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิตอยู่มาก เพียงแต่คุณอาจต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่เขากำหนด

        6. ทรัพย์สินบางอย่างที่ไม่ได้ใช้ ผันเอาไปเป็นเงินสดก่อน

ฟังดูอาจเป็นวิธีที่หมดท่าแล้ว แต่มันเป็นวิธีที่ยังใช้ได้ดี เมื่อมีสิ่งที่พอขายได้ก็จงอย่าลังเลที่จะเปลี่ยนมันเป็นเงินสดเก็บไว้เผื่อชำระหนี้ ของที่ขายอาจเป็นของสะสมหรืออะไรก็ตามที่มีมูลค่า จำไว้ว่าคราใดที่เดือดร้อน คุณนอนกอดมันไว้ก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาให้คุณได้

บทเรียนราคาแพง ป้องกันติดหนี้บัตรเครดิต

        1. พึงระลึกเสมอว่าบัตรเครดิตคือเงินเราเองในอนาคต

ก่อนจะใช้รูดซื้อสินค้าให้คิดเสมอว่ามันคือเงินของเราในอนาคตที่เราต้องจ่ายอยู่ดีเมื่อถึงกำหนดชำระเพื่อจะได้ไม่ใช้เงินเกินตัวจนเกิดปัญหาตามมา

        2. มีบัตรเครดิตไม่จำเป็นต้องมีหลายใบ

ขนาดมีบัตรใบเดียวยังควบคุมการใช้ลำบากแล้ว การมีบัตรเครดิตมากเกินไป ยิ่งก่อให้เกิดหายนะได้ง่ายกว่าเดิม อย่าเห็นแก่โปรของบัตรจนสมัครไว้หลายใบ เพราะแม้คุณจะควบคุมการใช้ได้แต่คุณอาจต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปีเพราะใช้บัตรไม่ถึงยอดที่เขากำหนด

        3. ทุกครั้งที่รูดใช้ จงโอนเงินในบัญชีเงินฝากหลักของคุณไปไว้ในบัญชีอื่นที่คุณไว้สำรองจ่ายเสมอ

วิธีนี้เป็นวิธีป้องกันการใช้บัตรเครดิตเกินตัวที่ได้ผลดีที่สุด นั่นคือทุกครั้งที่ใช้คุณก็โอนเงินเท่ากับยอดการใช้บัตรไปใส่อีกบัญชี คุณจะได้รู้ว่าคุณใช้บัตรไปเท่าไรแล้ว และยังการันตีว่าคุณมีเงินชำระเต็มจำนวนเมื่อถึงเวลาครบกำหนดชำระ

        4. วินัยทางการเงินคือวิธีป้องกันที่ดีที่สุด

ปัญหาหนี้บัตรเครดิตจะไม่มีทางเกิดขึ้นกับคุณเลยแค่เพียงคุณมีวินัยเท่านั้น ก่อนจะใช้คำนึงถึงความจำเป็นทุกครั้ง มันช่วยป้องกันคุณได้ดีที่สุด

บัตรเครดิตมีประโยชน์มหาศาลถ้าคุณใช้มันอย่างถูกต้อง และมันก็ก่อให้เกิดโทษอย่างมหันต์เช่นกันถ้าคุณไร้วินัย คิดสักนิดก่อนจะใช้บัตรเครดิตแล้วคุณจะไม่ต้องนั่งน้ำตาตกกุมขมับเพราะปัญหาหนี้บัตรเครดิตอีกเลย