การขายหมูสะเต๊ะ ไก่สะเต๊ะจะมีวิธีการที่ค่อนข้างยุ่งยากและซับซ้อน แต่เชื่อเถิดว่าถ้าคุณได้ลองเข้ามาดู ผลลัพธ์ที่คุณจะได้รับมันน่าทึ่งมากจริง ๆ สิ่งสำคัญที่คุณจะต้องใช้จริง ๆ ไม่ได้อยู่ที่เงินทุนแต่มันคือแรงกาย แรงใจ แรงเพียรพยายามเท่านั้นครับ  

กระบวนการปิ้งคือกรรมวิธีในการปรุงอาหารที่ทำให้อาหารมีรสชาติอร่อย หลาย ๆ คนชื่นชอบกลิ่นหอมและรสชาติเฉพาะที่เกิดขึ้นจากขั้นตอนนี้ อาหารที่ใช้การปิ้งมีด้วยกันหลายเมนู และเมนูที่เป็นตัวท็อปหนึ่งในนั้นก็คือ “หมูสะเต๊ะ ไก่สะเต๊ะ” นั่นเอง แต่แม้จะได้รับความนิยมสูงแต่กลายเป็นมีคนเข้ามาสู่วงการนี้น้อย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความยุ่งยากในกระบวนการเตรียมทั้งการหมักหมู การปรุงน้ำจิ้ม และการทำน้ำอาจาด ทำให้คนส่วนใหญ่หันไปขายเมนูข้าวเหนียวหมูปิ้งหรือไก่ปิ้งแทน ทั้ง ๆ ที่ถ้าทำหมูสะเต๊ะหรือไก่สะเต๊ะได้อร่อยจนลูกค้าติด ก็มีโอกาสตั้งตัวร่ำรวยกันได้เลยทีเดียว

เคล็ด(ไม่)ลับทำหมูสะเต๊ะ ไก่สะเต๊ะขายอย่างไรให้เป็นเศรษฐี

1. อยากขายจนร่ำรวยก็ต้องทำให้เป็น ถ้าไม่เป็นก็ไม่รู้ว่าจะรวยอย่างไร

เคล็ดลับพื้นฐานที่สุดถ้าอยากจะรวยจากอะไร คุณก็ต้องทำสิ่งนั้นให้เป็น เช่นเดียวกันถ้าอยากขายหมูสะเต๊ะ ไก่สะเต๊ะคุณก็ต้องเรียนรู้ว่ามีขั้นตอนอะไรบ้าง หมูสะเต๊ะ ไก่สะเต๊ะมี 4 ส่วนใหญ่ ๆ ที่คุณจะต้องเรียนรู้และทำให้เป็น ดังนี้

วัตถุดิบหลักไม่ว่าจะเป็นเนื้อไก่หรือเนื้อหมู คุณต้องพิถีพิถันตั้งแต่กระบวนการการเลือกใช้ส่วน       ไหนถึงจะอร่อย กระบวนการหมักและขั้นตอนการปิ้ง

น้ำจิ้ม ส่วนนี้ก็มีความสำคัญ น้ำจิ้มที่อร่อยจะช่วยชูรสของหมูสะเต๊ะ ไก่สะเต๊ะ คุณต้องเรียนรู้ว่าใน   น้ำจิ้มมีส่วนผสมอะไรบ้างและทำมันอย่างไร

น้ำอาจาด อีกส่วนสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่นที่คุณต้องเรียนรู้ น้ำอาจาดที่รสชาติอร่อยจะเป็นตัวชูโรงให้    หมูสะเต๊ะ ไก่สะเต๊ะของคุณอร่อยครับ

เครื่องเคียง โดยมากมักใช้ขนมปังปิ้งเป็นเครื่องเคียง แต่ถ้าคุณมีไอเดีย คุณอาจหาเมนูอื่นมาเพิ่ม   ความอร่อยได้

2. ปรับปรุงทุกสูตรให้ลงตัว นี่คือเอกลักษณ์ของร้านที่ลูกค้าจดจำ

ไม่ว่าคุณจะขายหมูสะเต๊ะหรือไก่สะเต๊ะ สูตรหมักเนื้อมีความสำคัญต่อร้านของคุณ หาส่วนผสมที่ลงตัวให้ได้แล้วปรับปรุงให้ออกมาดีที่สุด เมื่อปรับสูตรแต่ละครั้งลองนำไปให้คนอื่นทดลองชิมเพื่อดูฟีดแบ๊กกลับมา แล้วคณจะได้สูตรเฉพาะที่ลงตัวครับ และเช่นเดียวกันกับการหาสูตรน้ำจิ้มและน้ำอาจาดคุณก็ต้องใช้วิธีการนี้เช่นกัน

3. คงมาตรฐานของรสชาติแบบที่ว่าไม่ว่าจะกี่ครั้งรสชาติต้องเหมือนเดิม

        ในธุรกิจร้านอาหารสิ่งหนึ่งที่ควรจะคงมันเอาไว้เสมอก็คือเรื่องของรสชาติเพราะรสชาติที่ไม่คงที่คือหายนะที่รุนแรงในธุรกิจร้านอาหาร จริง ๆ แล้วการรักษารสชาติให้คงที่ในการทำหมูสะเต๊ะหรือไก่สะเต๊ะนั้นง่ายมากกว่าที่คุณคิด เพราะความอร่อยมันอยู่ตรงสูตรการหมัก สูตรน้ำจิ้ม สูตรอาจาดมันต้อง “เป๊ะ” และวิธีการที่จะให้มันแม่นยำคือ เพียงแค่คุณชั่ง ตวง วัดส่วนผสมทุกอย่างให้เหมือนเดิม รสชาติย่อมไม่มีวันเปลี่ยนจริงไหม อย่าใช้วิธีการกะหรือคาดคะเนส่วนผสมเด็ดขาดเพราะโอกาสพังมันมีสูง

4. เงินทุน เงินสำรอง เงินคงคลังต้องพร้อม อย่าใจกล้าเทหมดหน้าตักเพราะธุรกิจไม่ใช่ “บ่อน”

จะทำธุรกิจเงินทุน เงินสำรองคุณต้องมีให้พร้อมไม่เช่นนั้นธุรกิจก็เดินหน้าไม่ได้ และเมื่อมีเงินทุนแล้ว สิ่งแรกที่จะต้องทำคือการแบ่งมันออกเป็นทุนดำเนินงานไม่ว่าจะเป็นค่าอุปกรณ์เปิดร้าน ค่าเช่าที่และค่าวัตถุดิบ ส่วนอีกก้อนคือทุนสำรองที่คุณต้องปฏิญาณไว้ว่าถ้าไม่คอขาดบาดตายจริง ๆ คุณจะไม่แตะมันเด็ดขาด เพราะก้อนนี้มันคือสายป่านของคุณนั่นเอง และที่สำคัญอย่าได้มีนิสัยหน้าใหญ่ ใจใหญ่ เทหมดหน้าตักเด็ดขาด เพราะธุรกิจไม่ใช่การพนัน พลาดพลั้งขึ้นมาคุณก็จบ

5. แหล่งวัตถุดิบที่ส่งตรงให้คุณมันต้องมีคุณภาพและเชื่อถือได้

อนาคตของร้านคุณมันขึ้นกับคุณภาพของวัตถุดิบด้วยครับ ต้องระวังจุดนี้ให้มากดังนั้นแหล่งวัตถุดิบจึงมีความสำคัญอย่างคาดไม่ถึง พยายามหาแหล่งวัตถุดิบที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานในราคาที่คุณยอมรับได้ อย่าเอาอนาคตไปเสี่ยงกับวัตถุดิบ “ห่วย ๆ” เพราะคนที่จะเจ็บตัวก็คือตัวคุณเอง

6. ตั้งราคาขายให้สมเหตุสมผลและสัมพันธ์กับขนาดไม้

ขั้นตอนในการเสียบไม้ก็มีความสำคัญขนาดของเนื้อกับราคามันต้องสัมพันธ์กัน อย่าตั้งราคาสูงเกินโดยหมูและไก่ของคุณขนาดพอ ๆ กับไม้จิ้มฟัน เชื่อเถอะว่าไม่มีใครรับได้หรอก แม้ว่ามันจะอร่อยแค่ไหน ถ้าลูกค้ารู้สึกว่ามันไม่คุ้ม เขาก็ไม่ซื้อของ ๆ คุณครับ ของดีราคาสมเหตุสมผลเท่านั้นที่จะควักเงินออกจากกระเป๋าลูกค้า

7. ทำเลที่ตั้งร้านมันต้องโดน ถ้าเงียบเป็นป่าช้าแล้วคุณจะขายให้ใคร

ร้านหมูสะเต๊ะ ไก่สะเต๊ะ ยอดขายขึ้นต่อทำเล หากคุณได้ทำเลดียอดขายคุณก็สูง ทำเลที่ดีไม่ใช่แค่มองว่าคนพลุกพล่านเท่านั้น ทำเลประเภททางผ่านหรือจุดเชื่อมการเดินทางแม้คนจะเยอะก็ไม่ได้การันตีว่ายอดขายจะสูง ทำเลที่เหมาะจริง ๆ คือแหล่งรวมร้านอาหาร เพราะมันคือพื้นที่ที่คนมุ่งเป้ามาเพื่อหาซื้ออาหาร ทำเลแบบนี้แหละที่จะกระตุ้นยอดขาย

8. ช่องทางการขาย ยิ่งมีทางออกของมาก ยอดขายยิ่งกระฉูด

ช่องทางการขายไม่ได้มีแค่หน้าร้านเพียงอย่างเดียว ช่องทางการขายอื่น ๆ จะช่วยเพิ่มยอดขายให้โตขึ้นอีกทางไม่ว่าจะเป็นการเดลิเวอรี่ไปในละแวกใกล้เคียงซึ่งอาจใช้วินมอเตอร์ไซค์ช่วยในการส่งก็ได้ และอีกวิธีที่นิยมก็คือการเป็น  co-partner กับร้านใกล้เคียงก็จะช่วยเพิ่มยอดให้คุณอย่างคาดไม่ถึงเช่นกัน

9. ความประทับใจของลูกค้าคือเครื่องการันตีการกลับมาของลูกค้า

สิ่งที่จะช่วยสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้ามีตั้งหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการบริการ คุณภาพของอาหาร รสชาติล้ำลึก ความสะอาดและความปลอดภัย แม้คุณอาจเป็นเพียงร้านสะเต๊ะข้างทางคุณก็สามารถสร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาได้ เพราะเมื่อใดที่ลูกค้าเกิดความประทับใจขึ้นมาแล้ว มันก็ยากที่จะลบเลือนครับ

10. และสุดท้ายความสำเร็จก็ย้อนกลับไปสู่เรื่องของ “การตลาดออนไลน์”

        ท้ายที่สุดไม่ว่าคุณจะมีสูตรหมักที่ยอดเยี่ยมแค่ไหน น้ำจิ้มและอาจาดจะอร่อยเพียงใดหรือลูกค้าประทับใจมากเท่าไหร่มันก็ไม่สู้ว่าคุณทำการตลาดออนไลน์เป็นหรือไม่ เพราะการตลาดออนไลน์คือวิธีที่จะติดเขี้ยวเล็บให้แก่คุณอย่างแท้จริง จงอย่าละเลยถ้าคุณอยากลิ้มรสความสำเร็จชนิดที่คาดไม่ถึง

         แม้ว่าการขายหมูสะเต๊ะ ไก่สะเต๊ะจะมีวิธีการที่ค่อนข้างยุ่งยากและซับซ้อน แต่เชื่อเถิดว่าถ้าคุณได้ลองเข้ามาดู ผลลัพธ์ที่คุณจะได้รับมันน่าทึ่งมากจริง ๆ สิ่งสำคัญที่คุณจะต้องใช้จริง ๆ ไม่ได้อยู่ที่เงินทุนแต่มันคือแรงกาย แรงใจ แรงเพียรพยายามเท่านั้นครับ ไม่มีใครได้ผลลัพธ์เลิศเลอโดยไม่พยายาม ขอเพียงมี 3 สิ่งนี้ คุณก็มีโอกาสเหมือนกับคนอื่นเขา สิ่งนี้ไม่ใช่คำพูดล้อเล่นเพราะมีคนทำจนสำเร็จมาแล้ว

บทความเกี่ยวกับการทำการตลาดออนไลน์

เริ่มต้นธุรกิจอย่างไรไม่ให้เจ๊ง !!!