หากเปรียบตัวเราเป็นสินค้าที่ดี มีคุณภาพ บริษัทไหนออฟฟิตอะไร ได้เราไปร่วมงาน เจริญรุ่งเรืองแน่นอน .. แต่ การเป็น No name หรือ มีชื่อเรียกที่ไม่มีใครรู้จัก ดูจะไม่สอดคล้อง .. กับเป้าหมายอย่างที่เราต้องการ ให้มากกว่า ทำงานตามหน้าที่เพียงอย่างเดียว รับเงินแล้วจบไป ..
การสร้างตัวตนให้เป็นที่รู้จัก หรือ Personal branding ไม่ได้มีแค่การชื่อเสียงเพียงแต่ ต้องมีผลงานที่ดีพอ ให้ผู้คนทั่วไปยอมรับ และยินดี กับที่เราสร้างขึ้นมา ..

หากอ่านถึงบรรทัดนี้ รู้สึกว่า ต้องทำขนาดนั้นเลยหรอ อยู่นิ่งๆแบบเดิม ทุกวันนี้ ก็อยู่ได้แล้วนะ .. ใช่แล้ว .. ทุกวันนี้อยู่ได้ แต่อนาคตไม่มีการรับประกัน ว่ายังอยู่ได้ไหม .. โลกเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ถ้าเรายังอยู่ที่เดิมไม่เริ่มก้าว ..

เด็กรุ่นใหม่ เทคโนโลยีใหม่ อาจจะกลืนเรา หายออกจากการทำงานก็ได้ .. หรือ ยังอยู่ได้ แต่สภาพจะแบบไหน หละ .. ลองคิดดูเล่นๆก่อน และการสร้าง Personal branding ทำได้ง่ายๆดังนี้

  1. แต่งตัว : ภาพแรกที่เห็น คือ การแต่งตัว .. “ภายใน 3-5 วินาที เราตัดสินผู้คนจากการแต่งตัว ” ถึงจะมีเสียงค้อนแขวะ มาบ้างว่า คนเราสมัยนี้ ตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอก .. แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้เพราะ ภาพแรกที่เห็นดูไม่ประทับใจเอาซะเลย และ ไม่มีเวลาพอที่จะมานั่งทำความรู้จัก ค้นหาคุณค่า ความสามารถในทุกคนที่พบเจอ ในแต่ละวัน เพราะฉะนั้นการแต่งตัวให้ดี ย่อมได้เปรียบ เปิดช่องทาง น่าทำความรู้จักกับคุณมากขึ้น .. ไม่ต้องใส่สูท ผูกไทด์ กระโปรงเนี๊ยบ รองเท้าส้นเข็มตลอดเวลา ขอให้ภาพรวมดูดี และเป็นในแบบของคุณ ก็พอแล้ว
  2. ผลงาน : ขอให้คุณสวยทั้งรูป จุ๊บก็หอม .. หากได้ร่วมงานกัน ก็ทำศักยภาพตัวเองให้อย่างเต็มที่ “ค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน” ผลงานจะเป็นตัวการันตี คุณภาพในตัวคุณ .. หากเจองานใหม่ ที่ไม่เคยทำมาก่อน .. รับไว้ก็น่าจะเป็นผลดีมากกว่า เพราะเป็นประสบการณ์ และโปรไฟล์ ต่อไปได้
  3. แนวทางตัวเอง : ในการทำงาน ก็ควรมีลักษณะเฉพาะที่บ่งบอกถึงตัวคุณได้ .. ถ้าในสายงานอาร์ต หรือ ศิลปิน สามารถทำได้ง่าย แต่ในสายงานอื่นๆ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีหนทาง ฝ่ายบริหาร การตลาด งานบัญชี .. ตราบใดที่ยังต้องทำงาน ผลงานมีออกมาอย่างแน่นอน ลองหาช่องทางที่ให้ผลงานนั้น เป็นในแบบของคุณ และ ให้คนอื่นทำงานร่วมกับแบบสบายด้วยหละ
  4. ทำงานอย่างมีเป้าหมาย : หรือ ภาพที่คุณอยากให้เป็น ว่าตัวคุณจะอยู่ในตำแหน่งไหน สถานะอะไร ผู้คนเรียกหรือมองคุณ ด้วยสายตาอย่างไร ให้คำจำกัดความคุณว่าอะไร ถ้าเห็นปลายทาง เห็นภาพสุดท้าย แล้วที่เหลือก็ ทำตามเพื่อให้เป็นแบบที่ต้องการมากที่สุด .. จริงอยู่ มีอีกหลายปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่ก็ย่อมดีกว่า ใช่ไหม ที่จะเท่ากับ 0 ตลอดไป .. ร้ายที่สุดคือ ก้าวแล้วล้ม แต่ ระยะก็ยังมากกว่า 0 อยู่ดี และไม่ได้หมายความว่า จะลุกขึ้นอีกไม่ได้เลย

                เราต้องมี “เอกลักษณ์” ที่ชัดเจนในที่ทำงาน !!

เราต้องสร้าง “ผลงาน” เป็นที่ยอมรับในที่ทำงาน !!

เพียงเท่านี้เราก็สามารถตี Brand ให้กับตัวเองได้แล้วหละครับ….การมีแบรนด์เป็นเรื่องสำคัญมาก ในยุคปัจจุบัน แต่ไม่ใช่การเสนอหน้า ชิงดีชิงเด่นนะครับ เพียงแต่อยากให้ทุกคน ก้าวออกจาก comfort zone ของคน “ขี้อาย” ไม่กล้าแสดงออก ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น

ก้าวออกมาสู่โลกยุคใหม่ของ “ลูกจ้าง” ที่มี “แบรนด์” มีคุณค่าในตัวเองครับ