ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจรุนแรงกว่าที่คาดการณ์

สำนักข่าว CNBC ได้รายงานเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจรุนแรกงกว่าที่คาดไว้ในปีนี้ โดยมีรายละเอียดดังนี้

ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่คาดกันว่าอยู่ในภาวะคงที่แล้ว แต่สำหรับนักวิเคราะห์หลายคนกลับมองว่าภาวะนี้อาจจะถดถอยได้มากกว่านี้อีก โดยเราไม่มีทางรู้ว่าเคยเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยจนกระทั่งมันผ่านมาแล้ว

แม้จะมีความหวาดกลัวต่อภาวะถดถอย แต่ S&P 500 ก็เพิ่มขึ้นเกือบ 7% ในปีนี้  นั่นอาจเป็นเพราะกลุ่มนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเกิดภาวะถดถอยที่ค่อนข้างสั้น ทั้ง ๆ ที่ปีที่แล้ว S&P ลดลง 18%

นักวิเคระห์เชื่อว่าพอร์ตการลงทุนอาจตกอยู่ในภาวะช็อก  David Rosenberg อดีตนักเศรษฐศาสตร์ของ Merrill Lynch ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้บริหาร Rosenberg Research & Associates เรียกนักลงทุนว่าการผสมผสานระหว่างความกลัวภาวะเศรษฐกิจถดถอยและความรั้นของตลาดเป็นกรณีของ “ความไม่ลงรอยกันทางความคิด”

Raheel Siddiqui นักวิเคราะห์วิจัยอาวุโสของ Neuberger Berman กล่าวว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2023 “จะรุนแรงกว่าที่คาดไว้”

กรณีเศรษฐกิจถดถอยเล็กน้อย

ตลอดปี 2022 ธนาคารกลางสหรัฐมีเป้าหมายที่จะต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อทางออกของธนาคารกลางคือเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งเพื่อพยายามชะลอเศรษฐกิจและทำให้อัตราเงินเฟ้อเย็นลง ซึ่งมีคำถามตามมาว่าการเคลื่อนไหวของเฟดจะเพียงพอที่จะรองรับอัตราเงินเฟ้อโดยไม่ทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยหรือไม่

ทั้งนี้นักเศรษฐศาสตร์หลายคนเชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจเป็น “แบบนุ่มนวล”  นั่นเป็นเพราะจุดเด่นของภาวะเศรษฐกิจถดถอยแบบดั้งเดิมหลายอย่างไม่ได้เกิดขึ้น  ตัวอย่างเช่น การใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 70% ของเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง  ตลาดแรงงานก็แข็งแกร่งเช่นกัน โดยมีอัตราการว่างงานเพียงเล็กน้อยที่ 3.4% ซึ่งทำให้อัตราเงินเฟ้อกำลังลดลง ค่าจ้างกำลังไปได้ดี รายได้ที่แท้จริงกำลังกลับมาเป็นบวก

เหตุใดภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ลึกยิ่งขึ้นจึงอาจมาถึง

แม้ว่านักเศรษฐศาสตร์หลายคนจะมีมุมมองที่ค่อนข้างดี แต่นักวิเคราะห์บางคนมองว่าปัญหากำลังก่อตัวขึ้นโดยอาจมีผลมาจากการจัดการเงินเฟ้อที่ยากกว่าที่คาดไว้

ในขณะที่หลายคนมองว่าอัตราเงินเฟ้อที่เย็นลงเป็นสัญญาณว่าเฟดอาจสามารถชะลอหรือหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ในไม่ช้า แต่กระนั้นตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปไม่ได้บอกเรื่องราวทั้งหมด เพราะอัตราเงินเฟ้อในภาคบริการ ตรงข้ามกับสินค้า โดยในเดือนมกราคมมันแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1982 และไม่มีกรณีใดในประวัติศาสตร์ที่อัตราเงินเฟ้อภาคบริการลดลงก่อนที่อัตราการว่างงานจะสูงขึ้น

หรืออีกนัยหนึ่ง เศรษฐกิจจะต้องทนต่อความเจ็บปวดเพิ่มเติมในรูปแบบของการว่างงานที่เพิ่มขึ้นเพื่อให้อัตราเงินเฟ้อบรรเทาลง  นั่นอาจหมายถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องซึ่งอาจเป็นตัวส่งให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยลึกกว่าที่ผู้เชี่ยวชาญคาดไว้

รายได้ของบริษัทอาจตกต่ำลง

นักวิเคราะห์การลงทุนอาจชี้ให้เห็นว่าแม้จะมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจแต่การคาดการณ์กำไรของบริษัทซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของราคาหุ้นจะเป็นไปในเชิงบวก  นักวิเคราะห์ของวอลล์สตรีทคาดว่าบริษัทต่าง ๆ ใน ​​S&P 500 จะเพิ่มรายได้ 1.5% ในปี 2023 ตามรายงานของ Refinitiv

มีนักวิเคราะห์มองว่าในภาวะเศรษฐกิจถดถอยธรรมดารายได้จะลดลง 20%  และยังไม่เคยมีภาวะถดถอยที่รายรับเพิ่มขึ้นเลย และถูกมองว่าเป็นความผิดปกติที่เห็นได้ชัด

ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะบริษัทต่าง ๆ ใช้วิธีการทางบัญชีที่รวมเอาสถานการณ์ที่ดีที่สุดที่อาจไม่มีวันเกิดขึ้น Siddiqui กล่าวด้วยความถี่ที่เขาไม่เคยเห็นข้อมูลที่มีค่ามานานหลายทศวรรษ

นักลงทุนมักจะลงโทษวิธีการทางบัญชีที่บริษัทเหล่านี้ทำเมื่อบริษัทรายงานความล้มเหลวในการประมาณการรายได้  และเมื่อเศรษฐกิจตกต่ำเกิดขึ้นพร้อม ๆ กับภาวะเงินฝืด คุณก็คาดหวังได้ว่ารายได้จะลดลงมากกว่าปกติ

สาเหตุของอัตราเงินเฟ้อส่วนใหญ่มาจากนโยบายการเงินในยุคการแพร่ระบาดของโควิดที่กระตุ้นให้ชาวอเมริกันจำนวนมากเพิ่มเงินสดสำรองของพวกเขาอย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ 20% กล่มที่มีฐานะแทบไม่รู้สึกถึงผลกระทบ แต่ผู้มีรายได้จากการพึ่งพาค่าจ้างเพื่อเลี้ยงตัวเองกลับรู้สึกลำบาก มียอดบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์และมีแนวโน้มที่พวกเขาจะหมดเงินออมเนื่องจากค่าจ้างไม่เติบโตเร็วพอที่จะรองรับการใช้จ่ายของผู้บริโภค นั่นอาจส่งผลเสียต่อบริษัทที่ต้องพึ่งพาผู้มีรายได้น้อยเป็นลูกค้า เขากล่าว

ภาวะเศรษฐกิจถดถอยมีความหมายต่อเงินของคุณอย่างไร

ภาวะถดถอยที่ลึกจะหมายถึงการลดลงอย่างมากของราคาหุ้นในปี 2023 นักวิเคราะห์เหล่านี้กล่าวว่า S&P 500 อาจลดลงกว่า 26% ถึง 29% โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินควรระมัดระวังในการเปลี่ยนแปลงพอร์ตในระยะสั้น  หากคุณมั่นใจว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยและตลาดหมีกำลังใกล้เข้ามา ให้เน้นที่การเพิ่มสินทรัพย์คุณภาพสูงในพอร์ตเช่นบริษัทคุณภาพสูงที่มีงบดุลที่แข็งแกร่งและการจ่ายเงินปันผลที่มั่นคง เนื่องจากบริษัทเหล่านั้นมักมีผลประกอบการที่ดีกว่าในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ

ที่มา: https://www.cnbc.com/2023/02/18/what-a-deeper-than-expected-recession-means-for-your-money.html

สรุปประเด็นสำคัญของการคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจลึกกว่าที่คาด

นโยบายทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกามักจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก แม้ว่านักเศรษฐศาสตร์หลายคนจะมองว่าพาวะถดถอยเริ่มคลี่คลายแล้วแต่นักวิเคราะห์หลายคนกลับไม่คิดเช่นนั้นและเริ่มคิดถึงในกรณีที่แย่ที่สุดหากเศรษฐกิจของสหรัฐยังไม่ฟื้นกลับขึ้นมาและถดถอยลงยิ่งกว่าเดิม

ในเรื่องนี้อาจส่งผลเกี่ยวข้องกับทั้งนักลงทุนและประชาชนทั่วไปเช่นกัน ดังนั้นสิ่งที่เราทำได้คือการเฝ้ามองสถานการณ์เศรษฐกิจของสหรัฐว่าจะถดถอยลงไปกว่านี้หรือจะฟื้นตัวกลับมาอย่างแข็งแกร่งโดยเฉพาะนักลงทุนที่จำเป็นต้องติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะได้วางแผนการลงทุนและป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อพอร์ตการลงทุนของคุณเอง