ตัองเรียนทำ PowerPoint ด้วยหรือพี่? เป็นคำถามที่ผมถาม ด้วยความสงสัย !! 

ครั้งแรกที่ผมเจอ อาจารย์ปริญญา ชุมรุม หรือ อ.บอย ผู้คร่ำหวอดในวงการการตลาด และสอนการนำเสนองาน มาทั้งองค์กรรัฐ เอกชน มหาวิทยาลัย และคำตอบที่ผมได้ก็เป็น คำถามกลับเชิงให้ความรู้ว่า

“คุณเกียรติ ว่าการนำเสนองานเพื่อให้ได้งาน ต้องใช้ powerpoint กี่หน้ากี่สไลต์”

ผมก็ตอบไปว่า ขึ้นอยู่กับงาน เวลา และผู้ฟังครับ

แล้วงานที่เสนออนุมัติ ไหม ?

ก็ตอบยากครับ ผมตอบจากประสบการณ์

แล้วอาจารย์บอยก็ยกตัวอย่างให้ฟังพร้อมเปิดสไตล์บางอย่างให้ดูน่าจะ 4-5 สไลต์ได้

ผมดูด้วยความสนใจ และ อ.บอย ก็บอกว่า สไลต์นี้มีมูลค่า x ล้าน ใช้เวลาทำ ประมาณ 1 เดือน เพื่อให้ได้ 5 หน้า และปิดงานได้มูลค่าหลักล้าน

ทำพรีเซนต์งานไม่ใช่แค่แปะข้อมูลในสไลต์ให้คนอ่าน แต่ต้องออกแบบให้ Power Point ที่จะพูด

เหตุการณ์นี้บอกอะไรผม ?

การนำเสนองาน หากมองแค่ ว่าทำ Slide ง่ายๆ จบงานก็จะได้อย่างคนธรรมดาทั่วไป

แต่ถ้ามอง PowerPoint เป็นเครื่องมือสำคัญในการ สร้างความน่าสนใจให้กับโครงการ หรือผลิตภัณฑ ใช้ PowerPoint เล่าเรื่องราวให้ผู้ฟังเกิดความเข้าใจและประทับใจ  ผลลัพธ์ที่ได้นั้นย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน

วันนี้จึงตัดสินใจที่จะลงเรียนหลักสูตรนี้ครับ หลักสูตร ดึงดูดผู้ฟัง ปล่อยพลังผ่านพาวเวอร์พ้อยท์  

และนี่คือเนื้อหาบางส่วนที่เถ้าแก่ใหม่ได้มีโอกาสเข้าไปเรียน แล้วอยากนำมาแบ่งปันให้กับทุกท่านได้ลองนำไปปรับใช้กัน

ตีโจทย์ Content ก่อน ออกแบบ PowerPoint

สำคัญอย่างแรกของการสื่อสารคือ “สื่อให้ชัด”

ก่อนที่เราจะทำ PowerPoint นั้นสิ่งแรกที่ต้องทำจริงๆ คือต้องทำความเข้าใจกับ Content นั้นก่อนว่าองค์ประกอบของคอนเทนต์นี้เป็นอย่างไร บริบทโดยรวมแล้วต้องการสื่อสารอะไร กลุ่มผู้ฟังคอนเทนต์นี้เป็นใคร หวังผลอะไรจากการนำเสนอในครั้งนี้

จุดนี้ถือเป็น “กระดุมเม็ดแรก” ที่เจ้าของกิจการ ผู้บริหาร หรือ ผู้มีหน้าที่นำเสนองานต้องคิดและวางแผนให้ดีก่อน ทำความเข้าใจ ตีโจทย์คอนเทนต์ให้แตก เพราะหากกระดุมเม็ดแรกติดผิดแล้ว กระดุมเม็ดต่อๆ ไป ก็ไม่มีทางที่จะถูกแน่นอน

ส่งผลให้การนำเสนอในครั้งในครั้งนี้ ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ ให้เวลากับการทำความเข้าใจ Content ให้มากๆ จะส่งผลดีต่อการนำเสนออย่างแน่นอน

ออกแบบการนำเสนอด้วย Power Point ใช้หลัก 3 S

ผู้ฟังกำลัง “ฟัง” หรือ “อ่าน”

อ่านมากเท่าใด….ไม่ฟังเท่านั้น

หลักการที่ทาง อ.บอย แนะนำในการออกแบบ PowerPoint ให้ยึดหลัก 3 S คือ

1.Shot สั้น

ทำเสนองานให้สั้น กระชับ ได้ใจความ ไม่เวิ่นเว้อ ยาวจนน่าเบื่อ

2.Simple ง่าย

ทำให้ดูง่าย ไม่รก สบายตา ไม่ยำทุกอย่างลงใน Slide เดียวจนเลอะเทอะ ยิ่งง่ายมีมูลค่า ยิ่งมีราคา

3.Stunning มีจุดสนใจ

มีจุดกระตุกความสนใจคนอยู่เป็นระยะ ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพ คำพูด หรือ รูปแบบ Animation เพื่อให้เกิดความสนใจ ดึงดูดเขาเข้ามาในเกมการนำเสนอของเรา

คนนำเสนองาน ใช้หลัก 3S เช่นกัน

ใส่ความรู้สึก เข้าไปใน Slide ให้ได้ การนำเสนอต้องมีการสร้างอารมณ์ร่วม

การออกแบบการนำเสนอด้วย PowerPoint แม้จะทำได้ดีมาก ยอดเยี่ยมขนาดไหน หากคนที่นำงานนั้นไปใช้ไปนำเสนอ ไม่สามารถใช้เครื่องมือให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ เครื่องมือนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับไฟล์ธรรมดาทั่วไปนี่เอง

เครื่องมือดี ออกแบบมาดีแล้ว คนนำเสนอเองก็ต้อง มีการนำเสนอได้ดีด้วยเช่นกัน เบื้องต้นที่ผมจับประเด็นได้จาก อ.บอย ในการบรรยายคือ

1.Smart ดูดี

การแต่งตัวต้องดูดี มีความน่าเชื่อถือ คนจะฟังคนที่เขาเชื่อถือ หากเราไม่สามารถสร้างความเชื่อถือได้พูดไปก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา

2.Style มีรสนิยม

มีรูปแบบในสไตล์ของตัวเอง และสร้างรสนิยมร่วมกับกลุ่มผู้ฟัง เป็นพวกเดียวกับเขา แล้วเขาจะกลายมาเป็นพวกเดียวกับเรา

3.Smile ยิ้มแย้ม

รอยยิ้มชนะทุกสิ่ง คำพูดมีรอยยิ้ม บรรยายมีรอยยิ้ม จะทำให้บรรยากาศไม่ตึงเครียด ทำให้ผู้ฟังเปิดใจที่จะฟัง และจะส่งยิ้มกลับให้ผู้บรรยาย และความสุขก็จะเกิดขึ้น ผลลัพธ์ในทางที่ดีก็จะเกิดขึ้น

เครื่องมือจะเกิดประโยชน์ เมื่อเราใช้งานเป็นและออกแบบให้มันใช้งานได้ตามที่เราวางแผน

PowerPoint เป็นเพียงแค่ 1 เครื่องมือที่ใช้ในการนำเสนองาน แต่การออกแบบการนำเสนอสำคัญกว่าการใช้เครื่องมือหรือลูกเล่นที่มากมาย ออกแบบการนำเสนอได้ดี นำเสนอได้ดี ผลลัพธ์ย่อมดีแน่นอนครับ

หลังจากที่ได้เรียนกับ อ.บอย จบก็สารภาพเลยครับว่า ที่ผ่านมาทำ PowerPoint แค่เป็นเครื่องมือที่ขาดความเข้าใจการออกแบบวิธีการนำเสนอ จึงทำให้ขาดความน่าสนใจ ขาดจุดเชื่อมโยงต่างๆ หลังจากนี้คงต้องมีการนำความรู้และทักษะที่ได้มาปรับใช้กับการนำเสนองาน แบบที่ต้องยกเครื่องกันเลยทีเดียวครับ

 

สำหรับเพื่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของกิจการ ผู้จัดการ หรือ คนที่มีความจำเป็นต้อง นำเสนอผลงาน ผมแนะนำครับว่า หลักสูตรนี้ได้ประโยชน์กับท่านอย่างแน่นอนครับ แต่ต้องบอกก่อนนะครับ ว่าไม่ใช่เป็นคอร์สสอนการใช้ PowerPoint ครับ แต่เป็นการ “ออกแบบการนำเสนอผลงาน”  แล้วงานที่คุณนำเสนอจะได้ทั้งงาน และ ได้ทั้งเงิน เพิ่มมากขึ้นจนคุณแปลกใจ

เนื้อหาหลักสูตรสำหรับผู้ที่สนใจลอง ดูตามนี้นะครับ >> หลักสูตร ดึงดูดผู้ฟัง ปล่อยพลังผ่านพาวเวอร์พ้อยท์