ธนาคารขึ้นดอกเบี้ยยกแผง รอบ 2 เงินฝาก-เงินกู้ทุกประเภท 5 ธนาคารรัฐนำขบวน

วันที่ 14 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 1.50% เป็น 1.75% ต่อปี เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566 ส่งผลให้ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 5 แห่ง ธนาคารขึ้นดอกเบี้ย
ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือเอสเอ็มอีแบงก์ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือเอ็กซิมแบงก์ ได้ประกาศขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก เป็นครั้งที่ 2 ในรอบปี ส่งผลให้ดอกเบี้ยเงินกู้ในปี 2566 ปรับขึ้นมาแล้วถึง 0.50%

ธนาคารออมสินเพิ่มดอกเบี้ยเงินฝาก 0.05-0.2% ต่อปี

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารได้ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุด 0.40% ต่อปี เพื่อเป็นการส่งเสริมการออมแก่ลูกค้าบุคคลธรรมดารายย่อย พร้อมกับปรับดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน 6 เดือน 12 เดือน 24 เดือน และ 36 เดือน เพิ่ม 0.05-0.20% ต่อปี และเงินฝากประจำรายเดือนเพิ่ม 0.40% ต่อปี ขณะที่ดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภทได้ปรับขึ้น 0.25% ต่อปี ตามทิศทางของตลาด โดยมีผลตั้งแต่ 10 เมษายน 2566 ซึ่งการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคารได้คำนึงถึงผลกระทบและทำให้ลูกค้ามีระยะเวลาปรับตัวค่อยเป็นค่อยไป

ธอส.เงินฝากประจำขึ้น 0.05-0.4% ต่อปี

นายกฤษณ์ เสสะเวช กรรมการธนาคาร และรักษาการกรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า ธอส.มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ และเงินฝากประจำ 0.05-0.40% ต่อปี และปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท 0.25% ต่อปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2566

Exim ขึ้นดอกเบี้ยเริ่มมีผล 17 เม.ย.66

นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ เอ็กซิมแบงก์ กล่าวว่า ธนาคารได้ประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ย ไพรม์ เรต 0.25% ต่อปี จาก 6.00% ต่อปี เป็น 6.25% ต่อปี โดยมี ผลตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2566 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นการยืดเวลาขึ้นดอกเบี้ยออกไปจากต้นเดือนไปเป็นกลางเดือน เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการไทยมีเวลาปรับตัวและบริหารจัดการต้นทุนเพื่อรับมือกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น

SME Bank เงินฝากปรับสูงสุด เงินกู้ MLR ปรับเป็น 7.25%

รายงานข่าวจากเอสเอ็มอีแบงก์เผยว่า ได้ประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก โดยเงินฝากประจำปรับขึ้นสูงสุด 0.25% เงินกู้ขั้นต่ำ เอ็มแอลอาร์ ปรับขึ้น 0.25% เป็น 7.25% ต่อปี ส่วนเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี เอ็มอาร์อาร์ คงที่ 8.050% โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา

ธ.ก.ส. ปรับดอกเงินกู้ทุกประเภทขึ้น 0.25% ต่อปี

ด้านนายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธ.ก.ส.ได้มีมติขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ โดยดอกเบี้ยเงินฝาก ขึ้น 0.05–0.60% ต่อปี ขณะที่ดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท ขึ้น 0.25% ต่อปี ประกอบด้วย เอ็มอาร์อาร์ ขึ้นเป็น 6.875% เอ็มแอลอาร์ ขึ้นเป็น 5.375% และเอ็มโออาร์ ขึ้นเป็น 6.750% โดยมีผลตั้งแต่ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการแบ่งเบาและลดภาระของเกษตรกรในช่วงฟื้นตัวจากโควิด ธ.ก.ส.ยังมีสินเชื่อโครงการพิเศษ ดอกเบี้ยต่ำกว่าปกติ เช่น สินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย ดอกเบี้ย 0.01% สินเชื่อเอสเอ็มอี เสริมแกร่ง สินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพ อัตราดอกเบี้ย 4% เป็นต้น