ดูไบค่าเช่าอสังหาเพิ่มขึ้น 50% สถานการณ์นี้กำลังบอกอะไร

สำนักข่าว CNBC ได้รายงานเรื่องเมื่อค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์เพิ่มสูงขึ้น 50% คือฝันร้ายของผู้คนในดูไบโดยมีรายละเอียดดังนี้

ความต้องการอสังหาริมทรัพย์ในดูไบเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในช่วงสองเดือนแรกของปี 2566 โดยในเดือนกุมภาพันธ์เพียงเดือนเดียว ธุรกรรมในด้านที่อยู่อาศัยของดูไบมีถึง 8,515 รายการ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 43.9% จากปีก่อนหน้า  และเมื่อรวมจำนวนธุรกรรมททั้งในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์พบว่ามีรวมถึง 17,741 รายการ

นอกเหนือจากตลาดอสังหาริมทรัพย์แล้ว เศรษฐกิจของดูไบเองก็ดูจะเติบโตอย่างเห็นได้ชัดโดยทุก ๆ สัปดาห์จะมีร้านอาหารระดับไฮเอนด์แห่งใหม่ดูเหมือนจะปรากฏขึ้นและผู้อยู่อาศัยมักบ่นว่าการเรียกแท็กซี่ในตอนเย็นของสัปดาห์ ใช้เวลานานกว่าที่เคย

แต่ปัญหาหลักที่น่าหนักใจก็คือการเพิ่มขึ้นของค่าเช่าที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและส่งผลกระทบต่อผู้เช่า โดยหลายคนรายงานว่าเจ้าของบ้านขอขึ้นค่าเช่า 50% หรือสูงกว่าทำให้หลายคนต้องลดขนาดหรือย้ายไปยังพื้นที่ที่มีราคาถูกลง

แม้จะมีหน่วยงานที่เรียกว่า RERA ซึ่งกำกับดูแลด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ระบุว่าเจ้าของบ้านไม่สามารถเรียกร้องค่าเช่าเพิ่มขึ้นเกินกว่าร้อยละที่กำหนดตามมูลค่าตลาดปัจจุบันของอสังหาริมทรัพย์แต่ก็ไม่สามารถควบคุมราคาที่เพิ่มขึ้นได้ซึ่งเจ้าของบ้านกำลังหาทางหลีกเลี่ยงกฎของ RERA โดยผลักผู้เช่ารายเดิมออกโดยอ้างว่าพวกเขากำลังจะย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านเองหรือขายมันทิ้งไป แล้วให้เช่ากับผู้เช่ารายใหม่แทน ซึ่งพวกเขาคิดค่าเช่าที่สูงกว่าขีดจำกัดของ RERA  การปฏิบัตินี้ผิดกฎหมาย แต่เกิดขึ้นบ่อยครั้งเนื่องจากผู้เช่าจำนวนมากไม่ทราบสิทธิของตน

มีเจ้าของบ้านหลายรายที่เห็นโอกาสจากราคาที่ปรับสูงขึ้นจึงได้ทำการเข้าซื้อบ้านในราคา 4 ล้านเดอร์แฮมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (1.09 ล้านดอลลาร์) ในช่วงต้นปี 2564 และได้ทำการปรับปรุงตกแต่งใหม่และขายออกไปในราคาที่มากกส่า 2 เท่าในช่วงต้นปีที่ผ่านมา

ความแตกต่างเมื่อเทียบกับต้นปี 2020

สินเชื่อบ้านแลกเงิน UOB Cash to Homeลงทะเบียนขอสินเชื่อบ้านได้ที่นี่ 

ก่อนการแพร่ระบาดของโควิดภาคอสังหาริมทรัพย์ของดูไบมีมูลค่าลดลงประมาณ 25% ตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมาและเมื่อตลาดถึงจุดต่ำสุดผู้ซื้อก็เข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ราคาถูกเพื่อปรับปรุงใหม่ และเริ่มให้เช่าแก่ผู้เช่าและนักท่องเที่ยวเนื่องจากดูไบเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวและนักลงทุนในขณะที่โลกส่วนใหญ่ยังคงถูกล็อกดาวน์

เมื่อค่าเช่าบ้านพุ่งทะยานไม่หยุดหย่อน

เช่นเดียวกับเจ้าของอสังหาริมทรัพย์จำนวนมากที่ใช้ประโยชน์จากความต้องการในปัจจุบันเพื่อขายทำกำไร เจ้าของบ้านรู้ดีว่าเมื่อมีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาในดูไบมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ยังมีผู้ที่ยินดีจ่ายค่าเช่าในอัตราที่สูงขึ้นโดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2023 ค่าเช่าเฉลี่ยในดูไบเพิ่มขึ้นถึง 27.7%

ชาวรัสเซียจำนวนมากได้เข้ามาจับจองอสังหาริมทรัพย์ในดูไบ

สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนทำให้ชาวรัสเซียหลั่งไหลเข้ามาจำนวนมากและเมื่อสิ้นสุดไตรมาสที่ 3 ในปี 2565 ชาวรัสเซียคือผู้ที่ทำธุรกรรมมากที่สุด นอกจากนี้ยังมีชาวเยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี และสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

การเข้ามาของต่างชาติสอดคล้องกับนโยบายของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในการเปิดธุรกิจให้กับทุกเชื้อชาติรวมถึงผู้ที่มาจากอิสราเอลซึ่งไม่สามารถเข้าสู่ประเทศมุสลิมหลายแห่งได้รวมถึงการปฏิรูปที่เปิดเสรีหลายอย่างในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เช่น วีซ่าผู้ทำงานระยะไกลและการอนุญาตให้ต่างชาติเป็นเจ้าของธุรกิจบางประเภทได้ 100% จึงดึงดูดผู้อยู่อาศัยและบริษัทใหม่ๆเป็นจำนวนมาก

ดูไบพร้อมเปิดรับทุกคนเข้าประเทศ

เมื่อใดก็ตามที่มีความขัดแย้งหรือปัญหาบางอย่างเกิดขึ้น ดูไบจะมีนโยบายจูงใจที่ทำให้ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาในดูไบมากขึ้นและส่งผลให้ความต้องการอสังหาริมทรัพย์ในดูไบเพิ่มขึ้นจนไม่มีใครคาดหวังว่าราคาอสังหาริมทรัพย์จะลดลงในเร็ววันนี้ซึ่งสอดคล้องกับที่ Hussain Sajwani ผู้ก่อตั้ง Damac ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของ Emirati เชื่อว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ในดูไบยังมีแนวโน้มขึ้นได้อีกเพราะคนร่ำรวยยังคงต้องการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ในดูไบอยู่

ที่มา: https://www.cnbc.com/2023/03/10/dubais-record-property-demand-is-creating-a-nightmare-for-some-residents.html

ประเด็นที่น่าสนใจสำหรับข่าวดูไบค่าเช่าอสังหาเพิ่มขึ้น 50% สถานการณ์นี้กำลังบอกอะไร

สิ่งที่เกิดขึ้นที่ดูไบใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นที่อื่นหากภาครัฐมีนโยบายเปิดรับคนต่างชาติให้เข้ามาพำนักในประเทศโดยไม่มีมาตรการออกมารองรับก็มีโอกาสให้ความต้องการอสังหาริมทรัพย์ในบางพื้นที่เพิ่มสูงขึ้นจนนำไปสู่ภาวะราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะราคาค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ เพราะในเรื่องของการซื้อขายยังมีกฎหมายที่ควบคุมและกำหนดคุณสมบัติในการซื้ออสังหาริมทรัพย์อยู่

การเปิดรับชาวต่างชาติแทบทุกกรณีรวมถึงการมีมาตรการออกมาให้การรับรองสนับสนุนของดูไบก็เปรียบเสมือนดาบสองคมเพราะในฟากหนึ่งก็คือการไหลเข้ามาของเงินทาเข้าสู่ประเทศมากมายแต่ในขณะเดียวกันก็มีโอกาสทำให้สินทรัพย์หลายประเภทรวมถึงค่าครองชีพก็มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้เช่นกันจนไปกระทบคนในประเทศที่ไม่ได้มีรายได้มากพอจะครอบคลุมรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมาแล้วในประเทศเพื่อนบ้านที่เมืองใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นกลายเป็นสถานที่สำหรับชาวต่างชาติเพราะคนในพื้นที่มีรายได้ไม่พอกับค่าครองชีพนั้น

เหตุการณ์ในดูไบจึงเหมาะที่จะเป็นกระจกสะท้อนนโยบายการเปิดกว้างนี้ให้กระทำอย่างเหมาะสมและไม่กระทบกับคนในประเทศ หากสามารถควบคุมได้อย่างสมดุลก็ถือได้ว่าสร้างประโยชน์ให้กับประเทศได้อย่างมหาศาล