ตามปกติแล้วเวลาที่เริ่มต้นธุรกิจใหม่เราควรจะเผื่องบที่ใช้ในการทำการตลาดออนไลน์เอาไว้ด้วยเสมอ เพราะการตลาดเป็นเสมือนสะพานที่เชื่อมต่อให้ลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายของคุณได้มีโอกาสพบเจอกับร้านค้าหรือธุรกิจที่คุณสร้าง แต่บางครั้งด้วยงบประมาณที่ค่อนข้างจำกัดก็ทำให้เราไม่สามารถจัดหางบประมาณเพื่อใช้ในการทำการตลาดได้ ซึ่งปัญหานี้ก็อาจทำให้ผู้ประกอบการเป็นกังวลขึ้นมาได้ แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไปเพราะบทความนี้มีเทคนิคในการทำการตลาดแบบฟรี ๆ มาแนะนำให้คุณได้ทราบเพื่อเป็นแนวทางและช่องทางที่คุณจะสามารถนำไปพัฒนาและต่อยอดเพื่อทำการตลาดโดยไม่ต้องกังวลเรื่องงบประมาณที่ไม่เพียงพออีกต่อไป

ช่องทางขายของออนไลน์ฟรีมีที่ไหนบ้าง ? 3 ช่องทางออนไลน์ขายฟรี ดี๊ดี มาลองใช้กัน

1. การทำการตลาดออนไลน์ผ่านโซเชี่ยลมีเดีย

ช่องทางโซเชี่ยลมีเดียเป็นช่องทางที่สำคัญช่องทางหนึ่งในการทำการตลาดออนไลน์ แต่คุณทราบหรือไม่ว่าแม้วิธีการที่ได้ผลในการทำการตลาดผ่านช้องทางโซเชี่ยลมีเดียอาจจะใช้เงินในการยิง Ads บ้างแต่กระนั้นก็ยังมีหนทางที่สามารถโปรโมตธุรกิจของคุณได้ฟรี ๆอยู่อีกด้วย โดยการทำการตลาดผ่านช่องทางโซเชี่ยลมีเดียที่น่าสนใจมีดังนี้

Facebook: เราสามารถใช้ Facebook ส่วนตัวมาทำการตลาดได้โดยใช้ในการช่วยประชาสัมพันธ์ธุรกิจของคุณเอง โดยสิ่งที่น่าสนใจสำหรับ Facebook อยู่ที่ Facebook group ที่เป็นแหล่งรวมผู้ที่มีความชื่นชอบในเรื่องเดียวกันและเหมาะที่คุณจะใช้เป็นสื่อกลางที่ทำให้คนรู้จักธุรกิจของคุณได้ง่ายขึ้น

IG: ช่องทางนี้เหมาะกับธุรกิจในเชิงดีไซน์เพราะเป็นแพลตฟอร์มที่เน้นรูปภาพเป็นหลัก ดังนั้นเราต้องถ่ายรูปให้สวย จัดองค์ประกอบของภาพให้ดี และทำแฮชแท็กให้ดีและตรงกับสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายสนใจ ลูกค้าจะมาหาเราเยอะขึ้น

Twitter: ถ้าเป็นสินค้าที่เน้นไปที่กลุ่มวัยรุ่นหรือมีไลฟ์สไตล์แบบคนยุคใหม่ twitter จะตอบโจทย์มากและช่วยให้คุณได้กลุ่มลูกค้ามากขึ้นเช่นกัน

Line: เป็นโซเชี่ยลมีเดียที่มีคนใช้มากเป็นอันดับต้น ๆ ในประเทศไทย คุณสามารถทำการตลาดได้หลายรูปแบบและยังสามารถทำผ่านช่องทางไทม์ไลน์ได้เลย

Pinterest: ช่องทางนี้เหมาะกับ SMEs ที่มีธุรกิจเกี่ยวกับศิลปะและดีไซน์ เช่นธุรกิจขายกระเป๋าหรือสินค้ากลุ่มแฮนด์เมด โดยอาจใช้ตัวแท็กมาช่วยเพื่อดึงดูดความสนใจ โดย Pinterest มีการทำงานใน Google ที่ดีมาก

LinkedIn: ใช้สำหรับคนหางานหรือรับสมัครงาน แต่เราก็สามารถนำมาทำการตลาดได้

การจะเลือกใช้ช่องทางโซเชี่ยลมีเดียใดในการทำการตลาดเป็นสิ่งที่คุณต้องศึกษาให้ดีเพราะโซเชี่ยลมีเดียแต่ละแพลตฟอร์มมีความแตกต่างกัน มีฟีลลิ่งที่แตกต่างกัน เราต้องเลือกให้ดีว่าจะใช้อะไร อย่างไร โดยต้องเข้ากับคาแรกเตอร์ของโซเชี่ยลมีเดียตัวนั้น ๆ ด้วย

2.การทำการตลาดออนไลน์ด้วยคอนเทนต์

การทำคอนเทนต์เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการทำการตลาดออนไลน์ที่ไม่ว่าคุณจะใช้เงินหรือไม่ก็ตามก็ต้องให้ความสำคัญกับการสร้างคอนเทนต์ด้วยกันทั้งนั้น เพราะช่องทางนี้จะช่วยดึงดูดความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายได้ดีมากเช่นกัน โดยช่องทางการทำคอนเทนต์มีดังต่อไปนี้

– การทำ Blog: เราอาจทำผ่านฟรีเว็บไซต์เช่น Google blog หรือสร้างเป็น Blog ผ่านช่องทางอื่นได้ โดยเป็นการเขียนเรื่องราวที่เราชอบแล้วนำมาลงใน blog เพื่อดึงดูดึวามสนใจของกลุ่มเป้าหมาย

Guest post: เป็นการโพสต์หรือคอมเมนต์ใน blog ที่คนอื่นเขียนแต่ไม่ใช่การฝากร้านเพราะคนส่วนใหญ่มักจะไม่โฟกัส แต่ถ้าเป็น Guest post เราต้องเขียนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโพสต์ต้นทางและให้คุณค่ากับผู้อื่นก็จะช่วยทำให้คอมเทนต์หรือโพสต์เราเป็นที่สนใจ ทั้งนี้เราสามารถดึงหรือแชร์คนไปที่เว็บของเราได้เช่นกัน

Local publication: เป็นการส่งข้อมูลของเราไปให้เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องหรือแพลตฟอร์มท้องถิ่นหรืออาจจะเป็นเว็บไซต์สื่อต่าง ๆเพื่อให้เขาช่วยลงหรือประชาสัมพันธ์ให้กับเรา ส่วนใหญ่มักจะได้รับความยินยอมให้ลงฟรีเพราะเขาเองก็ต้องการคอนเทนต์ไปลงเช่นกัน

Slide share: เป็นการนำข้อมูลเนื้อหาที่เราทำเป็นสไลด์ไปลงใน slide share โดยอาจทำการบอกข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของเราเพื่อลงในนี้ก็ได้ วิธีการนี้เป็นอีกหนึ่งวิธีการทำการตลาดฟรีด้วยเช่นกัน ผู้ที่สนใจจะพยายามติดตามมาเองว่าใครเป็นเจ้าของสไลด์นี้

Google My business: เป็นการประชาสัมพันธ์ร้านโดยใช้ Google map โดยลูกค้าเปิด Google map แล้วเสิร์ทหาชื่อร้าน Google ก็จะเอาชื่อร้านเราไปให้พวกเขาเห็น แต่เราต้องเข้าใจและเลือกใช้คำคีย์เวิร์ดให้เหมาะสม

Email: ยังเป็นวิธีการทำการตลาดที่ใช้ได้ดี เราสามารถส่งข้อมูลที่เรามีไปสู่ฐานลูกค้าได้ผ่านทางอีเมล์ แม้ว่าอาจจะได้ผลตอบรับแค่1-2 % แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว

3. การทำการตลาดออนไลน์ด้วยภาพและเสียง (video and audio)

เป็นอีกหนึ่งช่องทางการทำการตลาดออนไลน์ที่น่าสนใจซึ่งช่องทางที่น่าสนใจมีดังนี้

Youtube: เป็นแพลตฟอร์มที่คนไทยใช้เยอะมากและมีฐานลูกค้าที่หลากหลาย นับจากนี้เป็นต้นไปการตลาดมีโอกาสสูงมากที่จะย้ายไปอยู่ที่ Youtube เป็นหลักเพราะเป็นการตลาดที่เข้าถึงง่าย เวลาที่คนสนใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็จะติดตามและโฟกัสสิ่งที่เขาสนใจอย่างยาวนาน ซึ่งทาง Youtube ก็มักจะนำเสนอสิ่งที่คนนั้นสนใจให้พวกเขาเห็นและรับรู้อย่างต่อเนื่อง ถ้าเราเข้าใจอัลกอรึธึ่มของ Youtube ได้ดีเราจะทำการตลาดบน Youtube ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยแทบไม่ต้องเสียเงินเลย

  Webinar: ถ้าเรามีธุรกิจที่สามารถทำเป็น webinar ได้ เราสามารถใช้ช่องทางของ webinar ในการทำการตลาดได้โดยเราสามารถบอกเล่าว่าเรามีการผลิตหรือการจำหน่ายสินค้าอย่างไรบ้าง เราจะได้พาร์ทเนอร์และลูกค้าที่สนใจด้วยช่องทางนี้ได้มากเช่นกัน

Udemy: หากเป็นในบ้านเราก็คือแพลตฟอร์มสื่อการเรียนการสอนออนไลน์ ถ้าเรามีคอนเทนต์เราสามารถนำสิ่งที่เรามีเช่นคอร์สอบรมต่าง ๆ เข้าไปอยู่ในแพลตฟอร์มสื่อการเรียนการสอนได้ ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งการทำการตลาดออนไลน์ฟรีที่ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ

   Podcast: แม้เพิ่งจะได้รับความานิยม 2-3 ปีก็ตามแต่ก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่น่าสนใจ โดยเป็นการทำการตลาดด้วยเสียงจึงเหมาะกับคนที่ไม่สะดวกทำวิดีโอหรือเขียนคอนเทนต์แต่สะดวกในการสื่อสารด้วยการพูดก็อาจมาใช้ช่องทางนี้ช่วยได้

4. แถม !!! Traditional การตลาดดั้งเดิม

            เราไม่ควรทิ้งเพราะสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้โดยการทำการตลาดวิธีนี้มีวิธีการที่น่าสนใจดังนี้

Guerilla Marketing: หรือการตลาดแบบกองโจร เป็นการตลาดที่สร้างความ “ว้าว” ได้ เป็นการทำการตลาดง่าย ๆไม่ต้องลงทุนมากแต่มีอิมแพคและเข้าถึงลูกค้าได้เพราะทำให้ลูกค้าได้เห็นชื่อแบรนด์ของเราอยู่ตามที่ต่าง ๆซึ่งจะช่วยสร้างภาพจำให้แก่ลูกค้าได้เช่นกัน

Profitable partnership: เป็นการหาพาร์ทเนอร์ตามที่ต่าง ๆ เช่นโซเชี่ยลมีเดีย เพื่อมาต่อยอดธุรกิจ

  – Referral program: เช่นให้ลูกค้าช่วยหาลูกค้าต่ออีกทีหนึ่ง โดยการมอบสิทธิประโยชน์บางอย่างให้กับลูกค้าที่ช่วยหาลูกค้ามาต่อให้

Business awards: หากมีการจัดการแข่งขันเราสามารถลงสมัครเพื่อแข่งขันหรือไปนำเสนอไอเดียธุรกิจของเราก็จะช่วยโปรโมตร้านให้เราเช่นกัน

Inbound marketing และ Outbound marketing กับการประยุกต์ใช้ในการทำการตลาดออนไลน์แบบฟรี ๆ

            – Inbound marketing คือการตลาดแบบดึงคนเข้ามาโดยการตลาดออนไลน์ฟรีที่เราแนะนำดังข้างต้นก็คือการใช้ Inbound marketing แบบนี้แต่วิธีการนี้จำเป็นต้องอาศัยเวลา แรงกายแรงใจในการทุ่มเทเพื่อดึงลูกค้าให้เข้ามารู้จักกับแบรนด์ของคุณซึ่งแม้จะเหนื่อยหน่อยแต่คุณก็สามารถประสบความสำเร็จได้หากมีความตั้งใจอย่างแท้จริง

  – Outbound marketing: คือการตลาดแบบใช้เงินแต่เป็นการใช้เงินอย่างคุ้มค่า การตลาดเช่นนี้จะทำให้เราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มาก หากคุณทำการตลาดแบบฟรีที่ไม่ต้องใช้เงินแล้วมียอดขายเกิดขึ้น คุณก็สามารถแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งมาทำการตลาดแบบนี้ได้ ซึ่งจะทำให้เราจะได้ข้อมูล ได้กลุ่มลูกค้าใหม่ ๆเพิ่มเข้ามามากขึ้น

ช่องทางขายของออนไลน์ฟรีมีที่ไหนบ้าง ? ได้คำตอบแล้วนะ ทั้งหมดนี้ก็คือแนวทางการทำการตลาดออนไลน์ที่ไม่ต้องใช้เงินในเบื้องต้นที่เราอยากจะแนะนำให้คุณทราบซึ่งก็ต้องบอกว่าเส้นทางนี้แม้จะต้องอาศัยระยะเวลาและความพยายามมากกว่าปกติ แต่คุณก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้เช่นเดียวกับการทำการตลาดออนไลน์ที่ต้องใช้เงิน ดังนั้นจงอย่าท้อใจและเริ่มต้นศึกษาพร้อมกับลงมือทำในทันที เพราะความสำเร็จที่คุณต้องการจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคุณได้ลงมือทำแล้วเท่านั้น

ช่องทางขายของออนไลน์ฟรีมีที่ไหนบ้าง

สนับสนุนเนื้อหาโดย NekoClick.com เพิ่มยอดขายออนไลน์ด้วย Magnet Marketing