เมื่อเปรียบเทียบนโยบายเศรษฐกิจของแต่ละพรรคแล้วพบว่าทุกพรรคการเมืองข้างต้นมีนโยบายที่มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาภาคการเกษตร และ SME ซึ่งเป็นฐานรากของเศรษฐกิจ นโยบายไหนโดนใจ นโยบายไหนจะถูกเลือกไปใช้  พวกเราเท่านั้นที่จะเป็นคนกำหนด

การเลือกตั้งนอกจากจะเป็นหน้าที่ที่คุณต้องไปใช้สิทธิ์ในการลงคะแนนเลือกพรรคการเมืองเข้ามาบริหารประเทศ การเลือกตั้งทุกครั้งยังเป็นตัวกำหนดทิศทางในการเดินหน้าของประเทศชาติอีกเช่นกัน

การเลือกตั้งทั่วไปในวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2562 ที่จะถึงนี้สร้างความตื่นตัวให้กับประชาชนทุกภาคส่วน ด้วยความคาดหวังต่ออนาคตของประเทศชาติว่าจะเดินหน้าไปในทิศทางใดหลังการเข้ารับตำแหน่งของรัฐบาลใหม่ ในเวลานี้แต่ละพรรคการเมืองจึงเร่งหาเสียงชูนโยบายเพื่อเอาชนะใจประชาชนกันอย่างหนักในทุก ๆ จังหวัด

ในฐานะนักธุรกิจไม่ว่าจะเป็นรายใหญ่ รายย่อยหรือ SMEs นโยบายด้านเศรษฐกิจของแต่ละพรรคล้วนกำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจของคุณในอนาคตว่าจะไปต่อกันอย่างไร นโยบายด้านเศรษฐกิจจึงเป็นสิ่งที่คุณต้องทำความเข้าใจและศึกษาให้ละเอียดเพื่อใช้ในการตัดสินใจลงคะแนนเลือกพรรคที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับธุรกิจของคุณมากที่สุด แต่ในขณะเดียวกันก็เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือเพื่อวางแผนการดำเนินธุรกิจหากพรรคที่คุณเลือกอาจไม่ชนะการเลือกตั้งคุณจะได้เตรียมตัวไว้เสียแต่เนิ่น ๆ ครับ ในแต่ละพรรคมีนโยบายเศรษฐกิจอย่างไรบ้างและส่งผลต่อธุรกิจอย่างไร เราจะตามไปล้วงลึกดูนโยบายของแต่ละพรรคกันดูครับ

  1. พรรคพลังประชารัฐ

 

เริ่มต้นกันที่พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคแรก ซึ่งนโยบายสำคัญด้านเศรษฐกิจของพรรคมีดังต่อไปนี้

  1. ยกระดับความสามารถผู้ผลิต 5 ล้าน อันได้แก่ Smart SMEs 1 ล้าน, Smart farmer 1 ล้าน, start up 1 ล้าน, Makers 1 ล้าน และร้านค้าปลีกชุมชน 1 ล้าน
  2. ก้าวสู่เกษตรประชารัฐ ปรับโครงสร้างภาคเกษตรด้วยนโยบาย 3 เพิ่มได้แก่ เพิ่มรายได้, เพิ่ม นวัตกรรม, เพิ่มทางเลือก และนโยบาย 3 ลดได้แก่ ลดหนี้, ลดความเสี่ยง, ลดต้นทุน
  3. กระจายรายได้ กระจายโอกาสด้วยการท่องเที่ยวชุมชน
  4. ชูเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เศรษฐกิจแบ่งปัน
  5. สร้างเศรษฐกิจชีวภาพ อุตสาหกรรมหมุนเวียน นวัตกรรมสีเขียว

ชำแหละนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ

หากเราวิเคราะห์ตามนโยบายของพรรคแล้ว พรรคพลังประชารัฐให้ความสำคัญต่อกลุ่มของผู้ประกอบการรายย่อยและ SMEs รวมไปถึงกลุ่มของ start up ด้วยนโยบายที่จะช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการเหล่านี้ ในขณะเดียวกันก็ยังให้ความสำคัญต่อกลุ่มของเกษตรในการช่วยเหลือในการเพิ่มรายได้และลดรายจ่ายรวมถึงสนับสนุนการใช้นวัตกรรมในการเพิ่มผลผลิตในภาคเกษตร และยังให้ความสำคัญต่อการท่องเที่ยวของชุมชนเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่คนในชุมชน แต่เราก็ต้องมาดูกันในภาคปฏิบัติครับว่านโยบายเหล่านี้จะต่อยอดไปสู่การปฏิบัติให้เป็นจริงได้อย่างไรเพราะสิ่งที่พรรคพลังประชารัฐนำเสนอยังเป็นแผนงานนโยบายในภาพกว้าง เป็นการกำหนดกรอบที่ยังไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดว่าจะใช้วิธีการอย่างไรในการดำเนินการ นี่จึงเป็นสิ่งที่เราต้องตามดูกันต่อไปครับ การนำนโยบายเปลี่ยนไปสู่การทำให้เป็นจริงพรรคพลังประชารัฐจะทำได้อย่างไรหากชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้

และล่าสุดกับการประกาศนโยบายเพิ่มในช่วงโค้งสุดท้ายที่พรรคพลังประชารัฐออกนโยบายเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 – 425 บาท/วัน เงินเดือนอาชีวะ 18,000 บาท และเงินเดือนปริญญาตรีที่ 20,000 บาทรวมถึงการกำหนดราคาขั้นต่ำของสินค้าเกษตรที่สำคัญ ยิ่งทำให้เราต้องติดตามกันครับว่านโยบายเหล่านี้จะมีทางเป็นจริงได้ด้วยวิธีใด

  1. พรรคเพื่อไทย

นโยบายที่สำคัญด้านเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยมีดังนี้

  1. ปรับโครงสร้างหนี้ พร้อมรับวิกฤติให้กับประชาชนและธุรกิจขนาดกลาง ขนาดเล็กลุกยืนตั้งตัว ได้
  2. เติมเงินทุนด้วยสถาบันพัฒนารายได้โดยขยายการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประชาชนด้วยสถาบัน พัฒนารายได้ทุกจังหวัด
  3. ขจัดอุปสรรคที่ขัดขวางการทำมาหากินของประชาชนโดยนำเทคโนโลยีมาอำนวยความสะดวก เพิ่มความโปร่งใสให้ประชาชนเป็นเจ้าของธุรกิจได้ง่าย
  4. กองทุนปรับเปลี่ยนหน้าดิน ปรับโครงสร้างรายได้เกษตรกร พักชำระหนี้เพื่อให้เกษตรกรตั้งตัว ได้
  5. ศูนย์สร้างเก้าแก่ใหม่ กองทุนเปลี่ยนงาน โดยลดงบกลาโหม 10% และยกเลิกการเกณฑ์ทหารเพื่อนำเงินและเด็กรุ่นใหม่มาสร้างธุรกิจ มีการตั้งกองทุนเปลี่ยนงาน สร้างธุรกิจให้กับพนักงานบริษัทที่ ถูกเลิกจ้างจากความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
  6. ให้สิทธิพิเศษทางภาษีสำหรับธุรกิจของคนไทย ให้ธุรกิจของคนไทยและธุรกิจของคนตัวเล็กทั่ว ประเทศได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีเช่นเดียวกับบัตรทองของ start up
  7. เพิ่มนักท่องเที่ยวให้ถึง 50 ล้านคน/ปี

ชำแหละนโยบายของพรรเพื่อไทย

พรรคเพื่อไทยยังคงพยายามชูจุดเด่นด้านเศรษฐกิจของตนเองในการเลือกตั้งครั้งนี้โดยยังคงให้ความสำคัญต่อกลุ่มเกษตร กลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและ SMEs ซึ่งวิธีการที่พรรคเพื่อไทยนำเสนอในนโยบายก็คือ การปรับโครงสร้างหนี้ให้แก่ธุรกิจและการพักชำระหนี้ให้แก่เกษตรกร รวมถึงการให้กลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กมีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่าย มีการใช้กฎหมายเพื่อช่วยส่งเสริมการประกอบธุรกิจ และการให้สิทธิพิเศษทางภาษีสำหรับธุรกิจ ซึ่งเราก็ต้องมาดูกันต่อไปครับว่าวิธีการที่ทางพรรคเพื่อไทยนำเสนอเป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นจะแปรไปเป็นหลักปฏิบัติได้อย่างไร และผลสัมฤทธิ์จะเป็นอย่างที่ตั้งใจไว้หรือไม่เป็นแค่เพียงการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ซึ่งก็ต้องรอดูกันครับว่าพรรคเพื่อไทยจะแปลงนโยบายเหล่านี้ได้อย่างไรหากชนะการเลือกตั้ง

  1. พรรคประชาธิปัตย์

นโยบายที่สำคัญด้านเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์มีดังนี้

  1. โฉนดสีฟ้าออก พ.ร.บ. โฉนดชุมชนให้สิทธิ์ในการจัดการไปยังชุมชนอย่างแท้จริงและยกระดับ เอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. ให้สามารถกู้ได้ โฉนดสืบทอดไปยังลูกหลานได้ ธนาคารที่ดินจัดสรรและเพิ่ม  การกระจายตัวของที่ดินให้ครอบคลุมความต้องการของประชาชน
  2. น้ำถึงทุกไร่นา จัดตั้งกองทุนน้ำชุมชน เพื่อให้เกษตรกรมีน้ำใช้ตลอดปี
  3. ประกันรายได้เกษตรกร
  4. ประกันรายได้แรงงานไม่ต่ำกว่า 120,000 บาท/ปี

ชำแหละนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์

นโยบายเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์มุ่งเน้นไปที่ภาคการเกษตรเป็นหลัก ทั้งนี้ถือเป็นการปัดฝุ่นนโยบายเก่าเมื่อครั้งที่เป็นรัฐบาลนำกลับมาใช้ใหม่ โดยการประกันรายได้พืชผลทางการเกษตร โดยรัฐบาลจะจ่ายส่วนต่างจากราคาท้องตลาด ขณะเดียวกันสิ่งที่เพิ่มเข้ามาใหม่คือการประกันรายได้ขั้นต่ำของภาคแรงงานเป็นนโยบายใหม่ที่เพิ่มเข้ามา นโยบายโดยรวมคือการช่วยให้เกษตรกรมีรายได้ มีแหล่งทำกินมากกว่าที่จะมุ่งเน้นไปที่ภาคธุรกิจหรือ SMEs เราต้องมาดูกันต่อไปครับว่าหากพรรคประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้งได้เข้ามาเป็นรัฐบาลจะยังคงเน้นนโยบายไปที่กลุ่มเกษตรกรเพียงอย่างเดียวหรือออกนโยบายส่งเสริมภาคธุรกิจโดยเฉพาะกลุ่ม SMEs อย่างไรบ้าง 

  1. พรรคภูมิใจไทย

นโยบายทางเศรษฐกิจที่สำคัญของพรรคภูมิใจไทยมีดังนี้

  1. กัญชาเสรี แก้กฎหมายยาเสพติด ผลักดันให้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่
  2. ทวงคืนกำไรให้ชาวนา โดยจัดตั้งกองทุนข้าวขึ้นมาทำหน้าที่กำหนดโควต้าส่งออก จัดทำประกัน ความเสี่ยงและบริหารแบ่งปันกำไรไปสู่ชาวนา โดยจะมีการกำหนดราคารับซื้อก่อนฤดูกาล       เพาะปลูก เพื่อไปคำนวณต้นทุนเมื่อขายข้าวได้เท่าไรจะนำกำไรไปแบ่งปันกันอย่างเป็นธรรม หาก    โครงการสำเร็จก็อาจพัฒนาไปสู่พืชผลทางการเกษตรชนิดอื่น
  3. ทวงคืนกำไรให้ชาวสวนปาล์มโดยเปลี่ยนสวนปาล์มเป็นบ่อน้ำมัน สร้างโรงไฟฟ้าน้ำมันปาล์ม และกำหนดให้ปาล์มทะลายมีราคากิโลกรัมละ 5 บาท
  4. พัฒนาเขตเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยหลักการเปลี่ยนเสียงระเบิดเป็นเสียงเครื่องจักรเปลี่ยนงบลับเป็นงบลงทุน
  5. ขับ grab ถูกกฎหมาย
  6. ทำงานออฟฟิศสัปดาห์ละ 4 วัน โลกออนไลน์ทำงานที่ไหนก็ได้โดยมีมาตรการทางภาษีเป็น แรงจูงใจ

ชำแหละนโยบายของพรรภูมิใจไทย

พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคการเมืองพรรคเดียวที่กล้านำเสนอนโยบายที่กำลังเป็นประเด็นทางสังคมอย่างเช่นการปลูกกัญชาเสรีเพื่อเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่หรือการให้การขับ grab เป็นสิ่งถูกกฎหมาย เราก็ต้องมาตามดูกันครับว่านโยบายเหล่านี้มีโอกาสเป็นจริงได้มากน้อยเดียงใดหากพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล

แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือนโยบายทางการเกษตรที่ใช้การจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะขึ้นมาช่วยกำหนดราคาพืชผล คำนวณต้นทุนและรับเอาสินค้าเกษตรจากเกษตรกรไปขายแล้วนำผลกำไรมาแบ่งปันกันซึ่งเป็นหลักคิดแนวใหม่ซึ่งก็ต้องมาดูเช่นกันครับว่าพรรคจะสามารถเปลี่ยนหลักการมาสู่การปฏิบัติได้อย่างไร

นโยบายของพรรคภูมิใจไทยมุ่งเน้นที่การพัฒนาเขตเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนและการกำหนดวันทำงานในสัปดาห์โดยใช้ช่องทางออนไลน์มาใช้แทนซึ่งก็ต้องมาดูเช่นกันครับว่าแล้วสำหรับวิชาชีพเฉพาะทางบางอย่างทางพรรคจะมีนโยบายในเรื่องนี้อย่างไร

  1. พรรคอนาคตใหม่

พรรคน้องใหม่ไฟแรงพรรคนี้มีนโยบายทางเศรษฐกิจดังนี้

  1. ทลายเศรษฐกิจผูกขาดโดยการจัดประมูลสัมปทานของรัฐให้โปร่งใส เปิดโอกาสให้บริษัทขนาด กลางและขนาดเล็กมีส่วนร่วม, แก้กฎหมายที่เอื้อต่อการผูกขาด, เปิดใบอนุญาตจัดตั้งธนาคาร  ท้องถิ่นเพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน, บังคับใช้กฎหมายแข่งขันการค้าอย่างจริงจัง
  2. เกษตรก้าวหน้าโดยการปลดหนี้เกษตรกร มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยลดต้นทุนและปลดล็อก ปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกร
  3. เศรษฐกิจดิจิทัลโดยส่งเสริมอุตสาหกรรมไอทีภายในประเทศและยกระดับสู่ต่างประเทศ
  4. เตรียมความพร้อมให้คนไทยเพื่อเข้าสู่โลกดิจิทัล โดยเพิ่มเติมหลักสูตรที่เกี่ยวข้องลงไปใน การศึกษาของประเทศและเปิดโรงเรียนสายอาชีพที่เน้นภาคปฏิบัติจริง

ชำแหละนโยบายพรรคอนาคตใหม่

พรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคการเมืองเดียวที่กล้าเปิดตัวนโยบายขจัดการผูกขาดทางเศรษฐกิจของกลุ่มทุนขนาดใหญ่ ซึ่งหากทำได้จริงมันจะช่วยส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมและเพิ่มโอกาสทางการค้าให้แก่เหล่าธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กหรือ SMEs ให้มีโอกาสลืมตาอ้าปากและส่งเสริมให้มีการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโตของธุรกิจ นอกจากนี้ก็ยังให้ความสำคัญกับภาคการเกษตรโดยเน้นนโยบายสร้างรายได้ปลดหนี้และมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ช่วยลดต้นทุนให้แก่เกษตรรวมถึงแก้ปัญหาที่ดินทำกิน

พรรคอนาคตใหม่ยังมีนโยบายที่เน้นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังมาแรงและจะเป็นระบบเศรษฐกิจในอนาคตข้างหน้าโดยมีการส่งเสริมและพัฒนาเตรียมความพร้อมของประชาชนให้ทันกับยุคดิจิทัลที่กำลังจะมาถึง ด้วยนโยบายที่กล้าเปลี่ยนแปลง กล้าพุ่งชนแบบนี้หากพรรคอนาคตใหม่ชนะการเลือกตั้งจะสามารถผลักดันนโยบายต่าง ๆ เหล่านี้ให้เป็นรูปธรรมมากน้อยเพียงใด

  1. พรรคชาติไทยพัฒนา

พรรคชาติไทยพัฒนามีนโยบายทางเศรษฐกิจที่สำคัญดังนี้

  1. เกษตรทันสมัยมีเงินใช้ทุกครัวเรือนโดยส่งเสริมให้ปลูกพืชรายได้ดี, ลดต้นทุนและจัดหา เทคโนโลยีที่เหมาะสมในการผลิต, พัฒนาแหล่งน้ำและฟื้นฟูการประมง
  2. การท่องเที่ยวโดยสร้างความจริงของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและรักษาเสถียรภาพของชุมชน วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม

ชำแหละนโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนา

นโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนามุ่งเน้นไปที่ภาคการเกษตรเป็นหลักทั้งในเรื่องของการเพิ่มรายได้ การใช้เทคโนโลยีในการลดต้นทุนในการผลิตและฟื้นฟูการประมง และมีนโยบายผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโดยผสมผสานเข้ากับวิถีของชุมชนเป็นหลัก พรรคชาติไทยพัฒนายังไม่กำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กอย่างชัดเจนซึ่งก็ต้องมารอลุ้นกันครับว่าหากพรรคชาติไทยพัฒนาได้เป็นรัฐบาลจะมีการผลักดันหรือออกนโยบายสำคัญที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มธุรกิจ SMEs มากน้อยเพียงใด

แล้วนโยบายของพรรคใดที่ตรงกับใจคุณ ?

เมื่อเปรียบเทียบนโยบายเศรษฐกิจของแต่ละพรรคแล้วพบว่าทุกพรรคการเมืองข้างต้นมีนโยบายที่มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาภาคการเกษตรและการให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรทั้งสิ้น โดยอาจมีหลักการ วิธีการและการนำไปใช้ที่แตกต่างกันออกไป ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับพี่น้องเกษตรกรแล้วล่ะครับว่านโยบายของพรรคใดที่ตรงใจและโดนใจคุณมากกว่ากัน

การเลือกตั้งนอกจากจะเป็นหน้าที่ที่คุณต้องไปใช้สิทธิ์ในการลงคะแนนเลือกพรรคการเมืองเข้ามาบริหารประเทศ การเลือกตั้งทุกครั้งยังเป็นตัวกำหนดทิศทางในการเดินหน้าของประเทศชาติอีกเช่นกัน การเลือกใครสักคนที่จะเข้ามาบริหารประเทศจึงต้องคิดให้ถี่ถ้วนก่อนเสมอที่จะลงคะแนนกาบัตรในคูหา เพราะผลแพ้ชนะที่เกิดขึ้นเท่ากับคุณกำลังมอบสิทธิในการนำพาชาติให้แก่พวกเขาหล่านั้น คนดี คนเก่ง คนที่กล้าออกมาปกป้องสิทธิของคุณนั่นแหละคือผู้แทนที่คุณต้องการ

ที่มา :
https://pprp.or.th/
https://election2019.ptp.or.th/
https://democrat.or.th/th
https://bhumjaithai.com/

หน้าแรก


http://www.chartthaipattana.or.th/th

เทหมดหน้าตัก! พปชร. ชู เลือกพลังประชารัฐแล้วรวย ค่าแรงขั้นต่ำ 400 เงินเดือน ป.ตรี 20,000