ถ้าไม่นับพ่อแม่แล้ว ผมบอกได้เลยครับ ครูในการสอนทำธุรกิจผมตั้งแต่เข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ ก็เป็นเพื่อนผมคนนี้หละครับ

ต่ายเป็นเพื่อนผมตั้งแต่เรียนเทคนิคกรุงเทพฯด้วยกัน ผมเรียนเช้า ต่ายเรียนบ่าย เราเป็นเพื่อนรหัสกัน

ต่ายมันดูเป็นคนมีตังก์ครับ แต่ไม่ได้ทำตัวเป็นเด็กโก้หรู กลับเป็นพวกที่ชอบไขว่คว้าหาโอกาสใหม่ ๆ เข้ามาในชีวิตตลอด

ต่ายชวนทำกิจการ หลายตัวครับ ก็ทำกันไป ล้มกันไปครับ ส่วนใหญ่แล้วเราได้ประสบการณ์มากมายจากความผิดพลาดเหล่านั้นครับ

ต้องบอกว่าผม “ตื้อ” อยู่นานพอสมควรนะครับกว่าจะได้บทสัมภาษณ์นี้มา เพราะเพื่อนผมมันบอกว่ายังไม่พร้อม แต่ในที่สุด เทพอีกคนที่ทำการตลาดออนไลน์แบบ Blue Ocean ก็ยินดีมาแบ่งปันประสบการณ์เบื้องต้นให้พวกเราเถ้าแก่ใหม่ได้ นำมาเป็นแนวความคิด ไอเดียในการต่อยอดธุรกิจกันครับ

ต่ายแนะนำตัวกับเพื่อน ๆ หน่อย

หวัดดีครับ ผม จิรภัทร แตงน้อย ชื่อเล่น ต่าย ปัจจุบันเป็นเจ้าของกิจการชื่อPETBERRY SUPPLY นำเข้าอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยงจากทั่วโลก เปิดดำเนินการตั้งแต่ 2552 ถึงวันนี้เป็นเวลา 6 ปี

เล่าประสบการณ์ตอนเรียนหน่อยเป็นอย่างไร แล้วทำงานอะไร

ผมเรียนจบสาขา เทคนิคคอมฯ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล เทคนิคกรุงเทพ  จบมาเกรด 2.48 หมดสิทธิ์ทำงานในองค์กรใหญ่ๆ สมัครเข้าทำงานบริษัทขนาดกลางๆ ทำงานตำแหน่งโปรแกรมเมอร์ตามที่เรียนมา แต่นิสัยจริงๆแล้วไม่ชอบงานสายนี้เลยระหว่างทำงานจึงค่อยๆอาสาไปทำงานด้านอื่นๆด้วยโดยเฉพาะด้านการตลาด จนได้แนวคิดและมุมมองมากขึ้น สุดท้ายก็มาลงตัวที่ Ecommerce เพราะเป็นการผสมผสานกันระหว่าง IT Skill + Marketing Mind ซึ่งเป็นจุดแข็งของเรา

มาเป็นเถ้าแก่ใหม่ได้อย่างไร

เมื่อก่อนมีความตั้งใจไว้ว่า จะทำงานประจำ
ควบคู่ กับการมีธุรกิจเล็กๆไปเรื่อยๆ เพราะต้องการความแน่นอนจากเงินเดือน และได้รายได้เพิ่มจากการทำธุรกิจ

 

จริงๆแล้วไม่มีจุดเปลี่ยนแบบทันทีทันใดทุกอย่างค่อยๆเปลี่ยนแปลงจนมาถึงจุดๆหนึ่ง เมื่อรายได้จากธุรกิจแซงงานประจำ

 

ผมตัดสินใจออกจากงานประจำตอนอายุ 32 หลังจากเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการทำงานประจำมา 10 ปี  ประจวบกับผลประกอบการของบริษัทที่ทำอยู่นั้นมีปัญหา ต้องลดคนงาน ผมจึงอาสาออกมาลุยธุรกิจแบบเต็มตัว

 

ตอนทำงานประจำวางแผนทำธุรกิจส่วนตัว ช่วยแบ่งปันวิธีการหน่อย

เริ่มต้นธุรกิจ ขณะทำงานประจำ

“ผมเลือกทำงานบริษัทใกล้บ้านเท่านั้น เพื่อจะได้ไม่เหนื่อยและเสียเวลาไปกับการเดินทาง และเอาพลังที่เหลือในแต่ละวันมาริเริ่ม คิด และลงมือทำธุรกิจของตัวเอง”

 

ทุกๆธุรกิจที่ผมคิดได้ ล้วนมาจากสิ่งรอบตัว ปัญหารอบๆตัว หรือคนรู้จักทั้งนั้น ก่อนหน้านี้ ผมใช้รถยนต์คันเก่าของพ่อ BMW ซี่รี่ย์ 3 รุ่นเก่ามากแล้ว ด้วยความเป็นวัยรุ่น เลยอยากแต่งรถ แต่อุปกรณ์แต่งรถรุ่นนี้มันไม่มีที่ไหนขายแล้ว ผมเลยต้องไปหาใน ebay.com แล้วสั่งมาใช้ หลังจากนั้นก็เลยสั่งมา 1 โหล 2 โหล ลงทุนแค่ 4-5 พัน เอามาขายลูกค้าในประเทศที่หาของคล้ายๆกัน ได้กำไรเดือนละ 5พัน สบายๆ ไม่ต้องรอให้เงินเดือนขึ้น ผมขึ้นให้ตัวเองง่ายกว่า เป็นจุดเริ่มต้นให้ผมชอบและอยากมาสาย Niche Product ตั้งแต่นั้นมา

หลังจากนั้นไม่นานผมมีโอกาสได้เลี้ยงสุนัขและแมว ผมเริ่มเสาะหาสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ดีๆจากทั่วโลกผ่านเว็บไซต์ เอาที่ยังไม่มีขายในไทย เน้นเฉพาะของดีๆแพงไม่ว่า คนไทยรวยจะตาย เมื่อได้มาแล้วก็ทดลองกับหมาแมวของเรา อันไหนไม่เวริคก็ทิ้งไป อันไหนเวริคก็ติดต่อบริษัทแม่ขอนำเข้า หรือ เป็นตัวแทนก็ว่าไป ปัจจุบันมีสินค้าทั้งหมด 5 กลุ่มหลัก เน้นลูกค้ากลุ่มกลาง-บนเท่านั้น และขายบนออนไลน์ 100% ไม่ต้องพึ่งร้านค้า ไม่ต้องจ้างพนังงานขาย ไม่ต้องเฝ้าร้าน ขอแค่มือถือดีๆเครื่องเดียวพอ

ผมเลือกสินค้ามาทำตลาด เหมือนเราตั้งใจจะเลือกผู้หญิงมาทำแม่ของลูกสักคน ผมไม่เลือกแบบสวยแต่รูปแต่จูบไม่หอม ไม่ชอบแบบฉาบฉวย คุยกันไม่กี่ครั้งก็ชวนกันขึ้นเตียง

เราต้องอยู่กับเขาไปเกือบทั้งชีวิต ดังนั้นสินค้าที่เลือกมาทำตลาดก็ต้องอยู่กับเราไปเกือบครั้งชีวิตเช่นกัน เราต้องมีความรักและเชื่อในสินค้านั้นว่ามันเหมาะกับเรา และเหมาะกับคนที่เขาจะนำไปใช้ต่อไป

ผมให้เวลากับการ “เลือก” มากกว่าการ “ขาย” แต่ผู้คนสนใหญ่กลับให้ความสนใจกับการ “ขาย” แต่ท้ายสุดมันก็ “ขาย” ไม่ออก เพราะ ไม่ได้เลือกสินค้า ไม่ได้เลือกลูกค้าให้ดี ประมาณว่าขึ้นเตียงแล้วแยกทาง…. จริง ๆ น่าจะใช้คำอื่นนะ 555

ส่วนวิธีการเลือกนั้น ผมให้หลักคิดเบื้องต้นว่า มองจากเรื่องใกล้ตัว แล้ว ตั้งดูว่า มีใครทำหรือยัง ถ้าทำแล้ว มันดีหรือยัง ถ้ามั่นใจว่าเราทำได้ดีกว่า ทำเลยครับ เพราะคนที่เริ่มก่อนเท่านั้นจึงจะครองตลาด แน่นอนครับอนาคตก็คงมีคนทำตามแต่กว่าจะถึงวันนั้น เราก็วิ่งไปไกลไม่รู้ถึงไหนต่อไหนแล้วครับ

ถามจริง เจออุปสรรคปัญหา และการแก้ไขอย่างไร

เอาจริง ๆ นะ เอาแบบตรง ๆ เลยนะเพื่อน

“ปัญหาไม่มีนะ อาจจะมีก็ได้ แต่ผมไม่ได้มองมัน” ถ้าจะให้พูดว่าเป็นปัญหาคงพลั่งพลูออกมาเป็นร้อยเป็นพัน

แต่คำถามผมคือ

“แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรครับ ?”

มีหรือไม่มี ก็ค่าเท่ากัน เพราะเรากำลังเดินไปข้างหน้า เรากำลังทำธุรกิจ ถ้ามามัวมาสนใจเศษหิน เศษแก้ว มันคงไม่ใช่ ผมไม่ฟังเสียงนกเสียงกา ผมได้ยินแต่เสียงหัวใจตัวเอง ทุกอย่างต้องผ่านไปได้ ทุกอย่างต้องก้าวพ้นไปได้ครับ

คุณว่าอุปสรรค ปัญหามันสำคัญนักหรือครับ !!!

ผมว่ามีอะไรที่สำคัญกว่าเรื่องพวกนี้เยอะแยะมากมายเลย

 

ไม่สนใจปัญหาดีมากเลยครับ งั้นมีจุดไหนที่เจอแล้ว รู้สึกว่าท้าทายที่สุด

ผมมักจะเริ่มจากการนำเข้าสินค้าใหม่ๆมาขาย แต่พอไม่นานก็จะมีเจ้าอื่นนำเข้ามาขายบ้าง ตัดราคาลง ทำให้ยอดขายตก

“การแก้วิกฤตของผม จะไม่ลดราคาแข่งเด็ดขาด แต่จะปรับราคาขายให้แพงขึ้นด้วย”

แต่ใส่คุณภาพเข้าไปให้สมราคา เบนซ์ต้องขายแพงๆ เพราะคนมีเงินเค้าไม่ได้มองว่าเบนช์แพง แต่เค้ามองว่ามันคุ้มค่า  สุดท้ายลูกค้าผมน้อยลงก็จริง แต่ยอดขายไม่ลดลง และกำไรเพิ่มขึ้นด้วย เพราะขายของดีราคาสูง กำไรก็สูงตามไปด้วย

ลูกค้ามีกลุ่มไหนบ้าง

ลูกค้า Niche Product ไม่มีช่องทางไหนจะดีเท่ากับอินเตอร์เน็ต  และควรวาง Position ของสินค้าให้ชัดเจน จะช่วยได้มากอินเตอเน็ตเป็นช่องทางที่ลงทุนน้อยแต่ได้ผลอย่างน่าทึ่ง หลักการไม่มีอะไรมากหา Keyword ของสินค้านั้นให้เจอ

  1. หาของที่จะขาย ไม่ต้องเยอะ โฟกัสไปที่สินค้ากลุ่มเล็กๆกลุ่มเดียวพอ เช่น “อะไหล่ปั๊มน้ำ mitsu”
  2. สร้างเว็บ/Fcebookโดยเน้นไปที่ Keyword ของสินค้าตัวนั้น
  3. อาจจะลงโฆษณาบ้างทั้ง Adword และ Facebook Ads
  4. รอรับโทรศัพท์และขายอย่างจริงใจ รู้จริง ถ้าของคุณดีจริง ลูกค้าจะเป็นคนปิดการขายเอง
  5. เมื่อสินค้าเริ่มขายได้ ก็ค่อยๆหา สินค้ากลุ่มใหม่ๆ ต่อไป สินค้า1กลุ่มขายได้เดือนละ 50000 ถ้ามี 4 กลุ่มก็ 2แสนแล้ว

 ตอนนี้มีสินค้าเกี่ยวกับหมาแมวอะไรบ้าง

ปัจจุบันสินค้าที่ขายอยู่มี 5 กลุ่ม เป็นสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงทั้งหมด ได้แก่

  • คอนโดแมว
  • น้ำพุแมว เครื่องให้อาหารหมาแมว
  • ประตูหมาแมว
  • ห้องน้ำแมวอัตโนมัติ
  • ปลอกคอกันหมาเห่า

ทั้งหมดขายผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ตอย่างเดียว มีออฟฟิศ 1 ที่ สำหรับให้ลูกค้ามาดูสินค้าและซื้อได้ ใช้พนักงานทั้งหมด 1 คน คือ ผมเอง

ต่ายนำ PETBERRY SUPPLY มาถึงวันนี้ได้อย่างไร

 

  • เริ่มธุรกิจโดยการทำเองทั้งหมด อย่าพึ่งพาใครต้นทุน ค่าใช้จ่ายจะต่ำ ทำให้มีกำไรมาก
  • ทำสิ่งที่คุ่แข่งเลียนแบบได้ยากหาจุดแข็งให้เจอ และอย่าเผลอทำในสิ่งที่คุณไม่ถนัด

 แนะนำการทำการตลาดแบบ “รากหญ้า” หน่อยครับ

เริ่มจากสิ่งใกล้ตัวครับ หาสิ่งที่รัก หรือ ถนัด แล้วนำ Skill หรือ ความชำนาญที่เรามีมาเป็นตัวผลักดันธุรกิจ ที่สำคัญคือ ตลาดต้องเป็นตลาดจำเพาะ Niche Product

 วางแผนอนาคตไว้อย่างไร
สร้าง System ขึ้นให้รองรับการเติบโตของบริษัท โดยเน้นไปที่ระบบ และใช้คนให้น้อยที่สุด

ข้อคิดฝากถึงเพื่อน ๆ เถ้าแก่ใหม่ ที่จะเริ่มทำธุรกิจ หรือกำลังประสบปัญหา

ก่อนเริ่มทำธุรกิจใดๆให้วิเคราะห์จุดอ่อนของตัวเองให้ได้เสียก่อน เราไม่ควรทำหรือสู้ในสนามที่เราไม่ถนัด คุณเป็นนักฟุตบอลทีมชาติ แต่หากไปว่ายน้ำก็อาจจะแพ้เด็กริมคลองก็ได้

อีกเรื่องคือการตัดสินใจ ทุกครั้งที่จะลงทุนครั้งใหม่ๆ ต้องคิดในกรณีที่เสียไว้ด้วย ถ้าเลวร้ายที่สุดจะทำอย่างไร ให้หาทางแก้ไว้เลย และสุดท้ายคือ อย่าหวังพึงคนอื่น

 ช่องทางติดต่อธุรกิจ

อีเมล : [email protected]

www.condomaew.com

www.doorforpet.com

เถ้าแก่ใหม่วิเคราะห์ธุรกิจ

สำหรับตลาดคนรักสัตว์ นับวันยิ่งเติบโตอย่างเงียบ ๆ มีสถานบริการทางการแพทย์ไว้บริการสัตว์ผุดขึ้นมากมาย และธุรกิจเกี่ยวเนื่องก็อีกเพียบเลยครับ

จับตลาดไหน ? นี่คือคำถามสำคัญของธุรกิจ สำหรับ PETBERRY SUPPLY เท่าที่ผมได้รู้จักและได้มีโอกาสไปเยี่ยมกิจการ บอกได้เลยครับ “เรียบง่าย แต่มั่นคง” ธุรกิจยังคงโตไปได้อีกมากมายเลยครับ

จากสินค้าตัวที่ 1 ก้าวสู่ที่ 2 ที่ 3 เป็นธุรกิจสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกัน เรียกว่า กินหมด เก็บเล็กผสมน้อย และที่สำคัญคือ “เลือกตลาด” คนที่พร้อมจะจ่ายในราคาที่ไม่ต้องต่อและได้ของดีมีคุณภาพ

ไม่ง่ายครับการทำตลาด Blue Ocean ในโลกออนไลน์ แต่ถ้าใครหาเจอ บอกได้เลยครับนี่คือ “ขุมทองคำ” เลยทีเดียวครับ

เอาใจช่วยเพื่อนต่ายครับ และ อยากให้เพื่อน ๆ เถ้าแก่ใหม่ได้ลองนำแนวคิดการหาสินค้ามาทำตลาดนะครับ อย่า “สำส่อน” เรี่ยร่ายไปทั่วนะครับ เลือกสินค้าให้เหมือนเลือกผู้หญิงมาเป็นแม่ของลูก หรือ เลือกผู้ชายมาเป็นพ่อของลูก

ว่าแล้วผมไปหาแม่ของลูกดีกว่า….เฮ่ย ๆๆ มีเมียแล้วจะหาอะไรอีก 555