แห่จองสิทธิ์เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 เต็ม 5.6 แสนสิทธิ ท่องเที่ยวคึก

คุณยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเปิดเผยโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 ที่เปิดให้ผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการสามารถใช้สิทธิจองห้องพักได้ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม 2566 เป็นต้นไปจนกว่าสิทธิหรือห้องพักจะหมด เพื่อเข้าพักได้ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม-30 เมษายน 2566 ตามระยะเวลาดำเนินโครงการ

ความคืบหน้าล่าสุดหลังผ่านไปเพียง 2 วันจากข้อมูลพบว่ายอดใช้สิทธิจองโรงแรมและชำระเงินทั้งหมดอยู่ที่ 309,980 ห้องพัก คิดเป็นมูลค่าเงินจองและชำระเงินสำเร็จทั้งหมดอยู่ที่ 1.1 พันล้านบาทโดยแบ่งเป็นการจ่ายส่วนของประชาชน 731 ล้านบาทและส่วนอุดหนุนจากรัฐบาล 456 ล้านบาท โดยมีจำนวนคนที่จองและชำระเงินสำเร็จ 125,063 คนคิดเป็น 162,295 รายการจากจำนวนโรงแรมที่มีการจองทั้งสิ้น 3,311 แห่งโดยมีการประเมินว่าภายในสัปดาห์นี้จำนวนสิทธิที่กำหนดไว้ 560,000 สิทธิหรือห้องพักนั้นน่าจะหมดลงได้

บัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ ท่องเที่ยว

สมัครบัตรเครดิตท่องเที่ยว ธนาคารกรุงเทพ ได้ที่นี่ 

ข้อมูลจากเว็บไซต์เราเที่ยวด้วยกัน.com ณ เวลา 17.00 น. วันที่ 8 มีนาคม 2566 พบว่า จำนวนสิทธิที่พักเหลือเพียง 169,035 สิทธิหรือห้องพักเท่านั้น

โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 รัฐบาลจะสนับสนุนค่าโรงแรม 40% ของราคาที่พักต่อห้องต่อคืนแต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืนและมีการจำกัดสิทธิคนละไม่เกิน 5 ห้องหรือ 5 คืน เมื่อทำการจองที่พักแล้วไม่สามารถยกเลิกได้แต่สามารถเลื่อนวันเข้าพักได้โดยเป็นไปตามเงื่อนไขที่โครงการกำหนด

ในส่วนสนับสนุนส่วนลดค่าอาหารและค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวด้วยผ่านคูปองอาหารหรือท่องเที่ยวมูลค่า 600 บาทต่อห้องต่อคืนเมื่อเช็กอินโรงแรมสำเร็จ จะได้รับคูปองอาหารหรือท่องเที่ยววันละ 1 ครั้ง หลังเวลา 17.00 น. ของวันเช็กอิน โดยคูปองจะหมดอายุเวลา 23.59 น. ของวันเช็กเอาต์นั้นๆ

การใช้คูปองอิเล็กทรอนิกส์รัฐจะจ่ายให้ในอัตรา 40% ของยอดที่ต้องชำระ เช่น หากใบเสร็จรับเงินระบุจำนวนค่าอาหารและเครื่องดื่มรวมทั้งหมด 1,000 บาท ลูกค้าสามารถใช้คูปองอิเล็กทรอนิกส์ได้ในจำนวน 400 บาท จากนั้นลูกค้าจะต้องชำระเงินผ่านแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง อีก 600 บาท เป็นต้น แต่หากจะใช้คูปองอิเล็กทรอนิกส์จ่ายค่าอาหารหรือท่องเที่ยวในรอบเดียวทั้งหมด 600 บาทนั้นต้องมียอดชำระอยู่ที่ 1,500 บาท

หากมีวันเข้าพักเกินกว่า 1 วันขึ้นไปคูปองที่ใช้ไม่หมดจะสามารถสมทบยอดเพื่อใช้ในวันถัดไปได้ แต่หากจองพักเพียง 1 วัน จะเท่ากับว่าคูปองอิเล็กทรอนิกส์จะหมดอายุหลังจากหมดทริปเที่ยวในวันนั้นทันที

คุณไตรศุลี ไตรสรณกุลรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ททท. ประเมินว่าเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 นี้จะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจ 12,539 ล้านบาทโดยแยกเป็นรายได้ทางตรงต่อผู้ประกอบการท่องเที่ยว 9,025 ล้านบาทและรายได้ทางอ้อมที่เกิดกับกิจการต่อเนื่อง 3,334 ล้านบาทและเมื่อรวมกับผลของมาตรการในเฟสที่1-4 ตั้งแต่ปี 2563-65 จะสร้างรายได้หมุนเวียนในเศรษฐกิจราว 49,000 ล้านบาท และทำให้มาตรการทั้ง 5 เฟสสร้างเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจไทยกว่า 6 หมื่นล้านบาทเลยทีเดียว

ที่มา: https://www.prachachat.net/tourism/news-1225848

ประเด็นที่น่าสนใจสำหรับข่าวแห่จองสิทธิ์เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 เต็ม 5.6 แสนสิทธิ ท่องเที่ยวคึก

เราเที่ยวด้วยกันเป็นหนึ่งในมาตรการภาครัฐที่ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งไม่เพียงแค่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศเท่านั้นหากแต่รวมไปถึงเศรษฐกิจในหน่วยอื่น ๆ ที่ต่างก็ได้รับอานิสงส์จากโครงการนี้กันถ้วนหน้า

แม้เราจะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพื่อให้พวกเขานำเม็ดเงินเข้ามาจับจ่ายใช้สอยก็ตามแต่ก็ต้องไม่ลืมว่าอีกภาคส่วนหนึ่งที่ภาครัฐเองก็ควรมีนโยบายที่ดีมาสนับสนุนก็คือการท่องเที่ยวภายในประเทศจากคนไทยด้วยกันเองซึ่งในแต่ละปีก็สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศหลายหมื่นล้านบาทเช่นกัน เงินหมุนเวียนเช่นนี้ถือว่าไม่น้อยทีเดียวและส่วนมากก็มักกระจายไปสู่แหล่งท่องเที่ยวตามเมืองรองด้วยเช่นกัน

เม็ดเงินหมุนเวียนจากการท่องเที่ยวภายในประเทศสำคัญเพียงใดก็ให้นึกย้อนกลับไปในช่วงที่เรายังคงปิดประเทศและภาครัฐเริ่มผ่อนปรนนโยบายเกี่ยวกับโควิดและกระตุ้นให้ประชาชนออกไปท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น ในช่วงเวลานั้นเกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจภายในประเทศซึ่งมีมูลค่าไม่น้อยทีเดียว

ด้วยเหตุนี้ภาครัฐจึงควรมีมาตรการออกมาสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างต่อเนื่องเช่นสิทธิพิเศษต่าง ๆ หรือการโปรโมทจากหน่วยงานภาครัฐซึ่งหากเราสามารถกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้นในแต่ละปีเม็ดเงินจำนวนนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่เราจะมองข้ามได้เลย