โลกออนไลน์สำหรับหลาย ๆคนคือแหล่งสร้างรายได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด หลายคนสร้างเนื้อสร้างตัวมีรายได้เลี้ยงชีพและครอบครัวได้ก็เพราะโลกออนไลน์ โลกออนไลน์จึงเป็นโอกาสในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างธุรกิจสำหรับผู้ที่มองเห็นโอกาสครับ การเริ่มต้นธุรกิจบนโลกออนไลน์มีอยู่ด้วยกันหลายรูปแบบ บางรูปแบบจำเป็นต้องอาศัยการลงทุน บางรูปแบบต้องอาศัยความรู้และความสามารถเพื่อขายความสามารถของตนในขณะที่บางรูปแบบคุณก็แทบไม่ต้องลงทุนอะไรเลยซึ่งไม่ต่างจากการจับเสือมือเปล่าครับ Dropship ก็คือรูปแบบการทำธุรกิจจับเสือมือเปล่าอย่างที่กล่าวไปข้างต้นครับ การทำ Dropship ให้ประสบความสำเร็จเราจะเริ่มต้นอย่างไร บทความนี้มีคำตอบครับ

ธุรกิจจับเสือมือเปล่าอย่าง ขาย Dropship อะไรดี และทำเงินให้เราได้จริงหรือ?

หลายคนอาจจะรู้จักกับการทำธุรกิจในรูปแบบนี้แล้วแต่อีกหลาย ๆคนที่เป็นมือใหม่ในแวดวงการค้าออนไลน์อาจจะยังไม่รู้จักครับ หากอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ Dropship ก็คือรูปแบบการทำธุรกิจที่เราเป็นสื่อกลางระหว่างลูกค้าและผู้ผลิตสินค้า โดยเราอาจจะหาสินค้าได้ทั้งในรูปแบบออฟไลน์คือการเข้าไปติดต่อยังโรงงานผลิต ห้างร้านและพวกขายส่งต่าง ๆเพื่อขอดูสินค้าแล้วถ่ายรูปสินค้านั้นมาลองทำการขายในโลกออนไลน์ หรือเราอาจจะหาสินค้าที่เราสนใจผ่านทางโลกออนไลน์จากแพลตฟอร์มต่าง ๆซึ่งเมื่อเราสนใจสินค้านั้น ๆให้เราทำการติดต่อเพื่อขอเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าในรูปแบบ Dropship โดยเจ้าของสินค้าจะให้ข้อมูลต่าง ๆเกี่ยวกับสินค้าไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ ข้อมูลสำคัญกับเราเพื่อให้เรานำไปโพสต์ขายสินค้ายังแพลตฟอร์มโซเชี่ยลต่าง ๆของเราครับไม่ว่าจะเป็น Facebook, IG, Twitter หรือ line

เมื่อลูกค้าที่สนใจสินค้าเข้ามาเห็นโพสต์ต่าง ๆที่เกี่ยวกับสินค้าซึ่งเราได้โพสต์เอาไว้และเกิดการติดต่อพูดคุยกับเราจนนำไปสู่การสั่งซื้อสินค้าเกิดขึ้น หน้าที่ถัดมาของเราก็คือให้นำออเดอร์ที่ได้นั้นติดต่อกลับไปยังบริษัทผู้ผลิตสินค้าไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตที่เราหาได้จากช่องทางออนไลน์หรือออฟไลน์ก็ตามเพื่อให้จัดส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าตามออเดอร์ที่เราส่งให้ โดยการจัดส่งจะเป็นการจัดส่งภายใต้ชื่อของเราเสมือนเราเป็นเจ้าของสินค้านั้นจริง ๆกำไรที่จะได้ก็คือส่วนต่างระหว่างราคาสินค้าที่เราตกลงกับทางบริษัทกับราคาที่เราเอาไปตั้งขายในโซเชี่ยลของเรานั่นเอง นี่ก็คือรูปแบบการทำธุรกิจแบบ Dropship ครับ

Dropship ที่ไหนดี ? แพลตฟอร์มการทำ Dropship ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันมีที่ไหนบ้าง

1. Alibaba

Alibaba คือแพลตฟอร์ม E-commerce รายใหญ่จากประเทศจีน ซึ่งมีสินค้าให้เลือกทำธุรกิจในรูปแบบนี้อยู่มากมาย และส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่ผลิตขึ้นในประเทศจีนครับ

2. Amazon และ Ebay

ทั้ง 2 แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่นี้คือ E-commerce ชื่อดังจากฝากฝั่งอเมริกา ซึ่งมีสินค้าให้เลือกมากมายหลายไม่แพ้ Alibaba ครับ แต่แพลตฟอร์มนี้ครอบคลุมผู้ผลิตสินค้าจากทั่วทุกมุมโลกมากกว่าของ Alibaba

3. Lazada และ Shoppee

2 แพลตฟอร์มนี้เป็นที่รู้จักกันดีในประเทศไทย เพราะเป็นการซื้อสินค้าออนไลน์ของคนไทยโดยส่วนใหญ่มาจากทั้ง 2 แพลตฟอร์มนี้มากที่สุดครับ ข้อดีก็คือสินค้าที่จำหน่ายเกือบทั้งหมดเป็นสินค้าที่วางจำหน่ายอยู่ในประเทศไทย แต่ก็มีบ้างที่เป็นสินค้าที่มีบริษัทผู้ผลิตอยู่นอกประเทศ ข้อดีก็คือการติดตามการจัดส่งสินค้าที่ง่ายและรวดเร็วเพราะไม่ต้องส่งข้ามประเทศครับ

4. Youpik

Youpik คือแพลตฟอร์มน้องใหม่ที่ถูกออกแบบมาในรูปแบบของ Social Commerce ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอีคอมเมิร์ซชื่อดังอย่าง Lazada นั่นเอง ใน Youpik คุณก็สามารถทำธุรกิจในรูปแบบของ Dropship ได้เช่นกัน

5. Website ต่าง ๆในรูปแบบของการติดต่อตัวแทนจำหน่ายสินค้านั้น ๆ

การทำ Dropship โดยการติดต่อไปยังตัวแทนจำหน่ายสินค้าโดยตรงตามเว็บไซต์ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่น่าสนใจ แต่กระนั้นก่อนที่คุณจะทำ Dropship กับพวกเขาคุณอาจจำเป็นต้องเปิดบิลเพื่อซื้อสินค้ามาทดลองใช้ให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องเสียก่อน การเลือกทำ Dropship กับตัวแทนคุณอาจจะต้องพิจารณาปัจจัยหลายอย่างเป็นต้นว่าความน่าเชื่อถือของสินค้าและความมั่นคงของบริษัท เพราะหากเกิดความผิดพลาดคุณเองก็คือผู้ที่ต้องแบกรับความเสียหายไม่ใช่บริษัทเหล่านี้

ปัจจัยสู่ความสำเร็จจะทำ Dropship ให้ประสบความสำเร็จต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง

1. ขาย Dropship อะไรดี ?

การเลือกสินค้าคือสิ่งแรกที่คุณจะต้องคำนึงถึงครับในการทำ Dropship เพราะคุณภาพของสินค้าคือปัจจัยแรกที่จะบอกได้ว่าคุณจะไปรอดหรือไม่ อย่างที่กล่าวไว้ในตอนต้นว่าสินค้าที่จัดส่งให้แก่ลูกค้าจะถูกจัดส่งในชื่อของคุณ ดังนั้นหากเกิดความผิดพลาดเสียหายใด ๆขึ้นมาคุณเองคือผู้แบกรับความเสียหายทั้งหมดครับ ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจเลือกสินค้าคุณต้องได้สัมผัสสินค้าด้วยตัวของคุณเองรวมไปถึงสืบหาข้อมูลความน่าเชื่อถือของบริษัทผู้ผลิตสินค้านั้นให้ดีเสียก่อน

2. ผลตอบแทน

แม้จะเป็นธุรกิจที่ไม่ต้องลงทุนสูงหรืออาจจะเรียกได้ว่าการจับเสือมือเปล่า แต่การทำ Dropship โดยมากจะมีผลตอบแทนที่ไม่สูงมากนักอาจจะอยู่ที่ 10-15 % หรือ 20-25 % แล้วแต่ว่าสินค้านั้นคืออะไร ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจเลือกสินค้าใดมาทำ Dropship คุณอาจจำเป็นต้องพิจารณาผลตอบแทนให้ถี่ถ้วนเสียก่อนและที่สำคัญคือ ผลตอบแทนนั้นได้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่คุณอาจต้องทำการตลาดด้วยหรือไม่

3. การจัดส่ง

ปัจจัยอีกประการหนึ่งก็คือ “การจัดส่งสินค้า” ว่าทางผู้ผลิตสินค้าเลือกจัดส่งโดยวิธีการใด และมีระยะเวลาในการจัดส่งรวดเร็วเพียงใด หรือว่าเราต้องเป็นผู้จัดส่งสินค้าเอง ระยะเวลาในการจัดส่งสินค้าเป็นอีกปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จในการทำ Dropship ที่ไม่ควรละเลยครับ

4. การบริการ

การบริการไม่ว่าจะเป็นการบริการก่อนการขาย ระหว่างการขายและหลังการขายถือเป็นสิ่งสำคัญ บางส่วนถือเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของคุณแต่บางส่วนคือหน้าที่ความรับผิดชอบของทางบริษัทครับ เช่นการเปลี่ยนสินค้าหากสินค้าเกิดความเสียหายหรือการให้ข้อมูลสินค้า คำแนะนำเมื่อลูกค้ามีปัญหาหรือข้อสงสัยในการใช้สินค้า คุณต้องพูดคุยตกลงกับทางบริษัทผู้ผลิตให้ดี

5. การรับประกันรวมถึงประกันความพึงพอใจ

การรับประกันและความพึงพอใจเป็นส่วนหนึ่งของการบริการหลังการขายครับ คุณอาจต้องมีการพูดคุยกับทางบริษัทผู้ผลิตให้ดีเสียก่อนว่าหากเกิดความเสียหายในการจัดส่งใครจะเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหาย หรือมีการรับประกันความพึงพอจากลูกค้ามากน้อยเพียงใด

ข้อมูลของลูกค้าคือสิ่งที่คุณจะต้องเก็บเอาไว้

ข้อมูลสำคัญของลูกค้าคือสิ่งจำเป็นที่คุณอาจจะต้องเก็บเอาไว้ครับ เพื่อที่ว่าในอนาคตหากคุณมีโอกาสดำเนินธุรกิจด้วยตัวของคุณเอง คุณอาจนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ในการทำการตลาดเพื่อโปรโมตแบรนด์ให้แก่กลุ่มลูกค้าดั้งเดิมของคุณครับ นอกจากนี้จงพยายามรักษาความสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มของลูกค้าเอาไว้ พวกเขาเหล่านี้อาจจะเป็นฐานลูกค้าสำคัญของคุณในอนาคตก็เป็นได้

การทำ Dropship นั้นไม่ยากอย่างที่คุณคิดครับ สิ่งสำคัญก็คือความตั้งใจและความทุ่มเทที่คุณต้องให้กับการทำธุรกิจในรูปแบบนี้อย่างเต็ม 100 แล้วคุณจะประสบความสำเร็จอย่างที่คุณต้องการ

บริการอบรม ให้คำปรึกษา Digital Marketing & Brand Storytelling ทั้งแบบรูปแบบองค์กร กลุ่ม และ ตัวต่อตัวขาย Dropship อะไรดี